Highlights

• การซื้อคอนโดปล่อยเช่า เป็นการลงทุนระยะยาวที่สร้าง Passive Income ได้มาก และมีสภาพคล่องสูง
• การซื้อคอนโดปล่อยเช่านั้นควรคำนึงถึงความต้องการผู้เช่าเป็นหลัก ทั้งในเรื่องของทำเล ความน่าไว้วางใจของโครงการ ขนาดห้อง การตกแต่งที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย ไปจนถึงสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการอยู่อาศัย
• นอกจากนี้ เรายังต้องศึกษาช่องทางการโฆษณาปล่อยเช่าคอนโดออนไลน์ และเลือกผู้เช่าที่มีความรับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้คอนโดเกิดความเสียหาย และปล่อยเช่าทำกำไรได้ต่อเนื่อง

การซื้อคอนโดปล่อยเช่า เป็นการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นอสังหาริมทรัพย์สภาพคล่องสูงที่ทำรายได้แบบ Passive Income ได้มาก และที่อยู่อาศัยเองก็เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ผู้คนมองหาอยู่ตลอดเวลา จึงเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนแห่งยุคสมัยอย่างแท้จริงครับ

แต่จะลงทุนอย่างไรให้ได้ Yield ที่น่าพึงพอใจ นี่เป็นอีกประเด็นสำคัญที่ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะยิ่งมีผู้ปล่อยเช่ามากขึ้น การแข่งขันก็จะยิ่งสูงขึ้นด้วย BANGKOK CITISMART จึงได้รวบรวม 10 เคล็ดลับเด็ด ที่จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่เข้าใจตั้งแต่การเลือก การเก็งกำไร ไปจนถึงการตกแต่งคอนโดเพื่อปล่อยเช่าโดยเฉพาะครับ

1. ทำเลใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก

คอนโดที่ปล่อยเช่าง่าย และได้ราคาสูง มักจะเป็นคอนโดที่อยู่ในเขตตัวเมือง ใกล้แนวรถไฟฟ้า ย่านธุรกิจ ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าแบบเดินเท้าถึง เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเย็นเยอะ และพร้อมจะลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทน (Yield) สูงสุด ทำเลดังกล่าว ได้แก่ คอนโดในเขตพญาไท ราชเทวี ชิดลม อโศก พร้องพงษ์ รวมถึงสาทร และสีลม ซึ่งถือเป็นเขตศูนย์กลางทางธุรกิจ หรือ CBD (Center Business District)

โดยผู้เช่าส่วนมากมักจะเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว นักธุรกิจต่างชาติ พนักงานประจำ หรือผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติที่มีฐานเงินเดือนสูง จึงสามารถเรียกค่าเช่าได้สูงถึงหลายหมื่นบาทต่อเดือนเลยทีเดียวครับ

2. ทำเลใกล้สถานศึกษา หรือเขตอุตสาหกรรม

นอกจากใจกลางเมืองแล้ว คอนโดในทำเลใกล้แหล่งงานและสถานศึกษาก็มีโอกาสปล่อยเช่าได้ง่ายเช่นกัน โดยเงินค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณหลักพันถึงหมื่นบาท แม้จะไม่สูงเมื่อเทียบกับคอนโดในเมือง แต่ก็ทำรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง และอาศัยเงินลงทุนที่ต่ำกว่า เช่น คอนโดโซนลาดพร้าว สยาม อโศก เพชรบุรี เป็นต้น

แต่หากเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำอย่าง ชลบุรี ระยอง หรืออยุธยา ก็อาจทำกำไรได้สูงขึ้น จากฐานลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น และพนักงานระดับผู้จัดการ ลองมองหาคอนโดระดับ Mid-Luxury ไว้รองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนี้ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยครับ

3. ทำเลที่มีแนวโน้มมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต

ขณะนี้กรุงเทพฯ ในเขตต่าง ๆ มีการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ห้างร้านต่าง ๆ ที่สำคัญคือรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ที่มีแผนยืดเส้นทางออกไปยังพื้นที่ชั้นนอกมากขึ้น ลองศึกษาแผนการสร้างสถานีต่อขยาย หรือโครงการที่กำลังจะขึ้นใหม่เพิ่มเติม แล้วซื้อคอนโดในทำเลนั้น ๆ ไว้รอ ก็จะทำกำไรเม็ดงามในอนาคตได้อย่างไม่ยากเลยครับ Top 10 คอนโดแนวรถไฟฟ้าราคาสูง ณ สิ้นปี 2563

4. เลือกโครงการที่มีชื่อเสียงหรือน่าไว้วางใจ

ปัจจุบันผู้เช่าให้ความสนใจกับบริษัทเจ้าของโครงการคอนโดมากขึ้น เพราะ Branding ก็เปรียบเสมือนเครดิตที่บ่งบอกถึงคุณภาพ เกรดวัสดุ สิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการออกแบบที่ใส่ใจ จนหลายคนถึงกับใช้ชื่อบริษัทหรือโครงการในการค้นหาคอนโดควบคู่ไปกับทำเลที่หมายตา เช่น คอนโด AP โซนราชเทวี เพลินจิต-วิทยุ ลาดพร้าว อ่อนนุช พระราม 9 เป็นต้น

5. ห้องและโครงการต้องเหมาะกับการใช้ชีวิต

เลือกห้องที่มีวิวสวย หรือเป็นห้องมุมที่มีความเป็นส่วนตัว จัดแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานลงตัว ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป หากเป็นคอนโดห้องสตูดิโอ ขนาด 24-30 ตร.ม. จะมีโอกาสในการปล่อยเช่าได้สูง เนื่องจากมีความคล่องตัว และมีราคาเช่าไม่สูงมาก หากเป็นคอนโด 1 ห้องนอน ควรมีพื้นที่อย่างน้อย 30-35 ตร.ม. เหมาะสำหรับผู้เช่า 2 คนขึ้นไป และสำหรับ 2 ห้องนอน ควรมีขนาดประมาณ 42-55 ตร.ม. เหมาะกับผู้เช่า 3-4 คนขึ้นไปครับ

สำหรับตัวโครงการควรมีการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาอยู่เสมอ มีพื้นที่ส่วนกลางเพียงพอต่อจำนวนผู้อยู่อาศัย และมีสภาพแวดล้อมที่เดินทางสะดวก ไม่เปลี่ยวหรือแออัด เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้โอกาสในการปล่อยเช่าสูงขึ้นแล้วครับ

6. ราคาและโปรโมชั่นเป็นเรื่องสำคัญ

ศึกษาและเปรียบเทียบคอนโดในบริเวณที่ต้องการลงทุนอย่างละเอียด เพื่อหาราคาต่อตารางเมตรที่คุ้มค่าที่สุด หลายโครงการเมื่อเข้าไปเยี่ยมชมแล้ว อาจจะสามารถขอต่อรอง หรือขอส่วนลดเพิ่มเติมได้

ส่วนเรื่องของโปรโมชั่น แนะนำให้โทรเข้าไปสอบถามโครงการหรือเจ้าของห้องโดยตรงถึงเงื่อนไข และยูนิตที่สามารถปล่อยเช่าด้วยได้ อย่าด่วนตัดสินใจจากจำนวนส่วนลดสูงสุด หรือจำนวนเงินดาวน์ที่ต่ำที่สุดจากป้ายโฆษณาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หรือเลือก ปรึกษาตัวแทนอสังหาฯ มืออาชีพที่น่าเชื่อถือ

7. เลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด

ในกรณีที่ต้องการกู้ ให้ลองติดต่อหลาย ๆ ธนาคารเพื่อหาอัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุด เพราะแต่ละที่จะมีความแตกต่างกันไปตามต้นทุนในการดำเนินงาน และควรเลือกระยะเวลากู้ที่สั้นที่สุด เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยถูกลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะกู้คนเดียว หรือ กู้ร่วม แต่ละธนาคารก็จะมีนโยบายและเงื่อนไขแตกต่างกันออกไปครับ

8. แต่งห้องให้ครบ และไม่ฉูดฉาดจนเกินไป

โดยปกติผู้เช่ามักจะมองหาคอนโดที่แต่งครบและพร้อมเข้าอยู่แล้วเท่านั้น จึงควรซื้อเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ ทีวี หรือตู้เย็น แนะนำให้แต่งห้องโดยเลือกใช้สี Earth Tone ที่ดูสบายตาและทันสมัย เข้าได้กับคนทุกเพศทุกวัย อย่าแต่งเติมอะไรมากจนเกินไป เพราะจะทำให้พื้นที่ในการใช้ชีวิตลดลงโดยไม่จำเป็น

9. ศึกษาวิธีปล่อยเช่าที่หลากหลาย

การลงข้อมูลในเว็บไซต์ประกาศซื้อ-ขายคอนโดออนไลน์ ตัวแทนหรือเอเจ้นท์ด้านอสังหาฯ ที่มีประสบการณ์สูง รวมถึง Social Media ช่องทางต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้เช่าเข้าถึงข้อมูลคอนโดของเราได้เร็วและตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทำให้เราสามารถปล่อยเช่าได้เร็วขึ้น และสามารถเลือกผู้เช่าที่ตรงใจได้อีกด้วย

10. เลือกผู้เช่าที่ดีที่สุด

ควรมีการพูดคุยกับผู้เช่าเพื่อดูลักษณะนิสัย ความรับผิดชอบ รวมถึงทำสัญญาข้อตกลงร่วมกันให้รัดกุม เพราะหากผู้เช่าสร้างความเสียหายให้กับคอนโดจนต้องเสียเวลาซ่อมแซม การปล่อยให้เช่าต่อก็จะขาดช่วง หรือหากความเสียหายมากเกินเยียวยา ก็อาจถึงขั้นต้องดำเนินคดีความ หรือฟ้องร้องกันได้เลยครับ

หวังว่าเคล็ดลับทั้ง 10 ข้อของเรา จะช่วยให้ผู้อ่านซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าได้อย่างยั่งยืน จนกลายเป็นการลงทุนเพื่อ Passive Income ตลอดชีวิต อย่าลืมติดตามอัพเดทข่าวสาร และ Insight เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจ จาก BANGKOK CITISMART ได้ใหม่ในบทความหน้านะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Yield คืออะไร ทำไมนักลงทุนปล่อยเช่าต้องรู้
เทคนิคปล่อยเช่าคอนโดง่าย ๆ สไตล์ BC Agent
5 สิ่งที่ผู้ปล่อยเช่าควรคำนึงถึงก่อนการตกแต่งคอนโด
“สัญญาเช่า”แบบนี้ ถูกใจทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่า
Do & Don’t บทบาทและหน้าที่ ในฐานะของ “ผู้ให้เช่า” ตามกฎหมาย

อ้างอิง

Sansiri, Krungsri, Living Insider และ SCB