วันที่ 6 พฤษภาคม 2566

รวม 10 วิธีประหยัดไฟในคอนโด ทางออกเมื่อหน้าร้อนนี้ค่าไฟสูงขึ้น

new-cover-1.jpg

ช่วงนี้หลายคนคงกังวลเรื่องบิลค่าไฟที่สูงขึ้น ท่ามกลางหน้าร้อนของประเทศไทยที่บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส สำหรับผู้ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัด คงหลีกเลี่ยงเรื่องอากาศภายในห้องที่โดนแดดร้อนจัด จนต้องยอมเปิดแอร์ทั้งวันไม่ได้ ส่งผลให้หลายๆ บ้านมีบิลค่าไฟสูงขึ้นเป็นเท่าตัว บทความนี้ BC เลยรวบรวมวิธีประหยัดไฟสำหรับชาวคอนโดมาให้ เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าไฟฟ้าแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

10 อันดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าในคอนโดที่กินไฟมากที่สุด

10-เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ_Landing-1.jpg

ก่อนจะไปดูวิธีประหยัดไฟ มาดู 10 อันดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าในคอนโดที่กินไฟมากที่สุด ไว้เป็นแนวทางในการลด หรือเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดอย่างถูกจุด โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้จัดอันดับว่าใน 1 ชั่วโมง มีเครื่องใช้ไฟฟ้าไหนที่กินไฟมากที่สุด ดังนี้

อันดับที่ 1 : เครื่องทำน้ำอุ่น ใช้กำลังไฟฟ้า 2,500–4,000 วัตต์

อันดับที่ 2 : เครื่องปรับอากาศ ใช้กำลังไฟฟ้า 1,200-3,300 วัตต์

อันดับที่ 3 : เครื่องซักผ้าแบบมีเครื่องอบผ้า ใช้กำลังไฟฟ้า 3,000 วัตต์

อันดับที่ 4 : เตารีดไฟฟ้า ใช้กำลังไฟฟ้า 700-2,000 วัตต์
อันดับที่ 5 : หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใช้กำลังไฟฟ้า 450-1,500 วัตต์
อันดับที่ 6 : เตาไฟฟ้า ใช้กำลังไฟฟ้า 200-1,500 วัตต์
อันดับที่ 7 : เครื่องดูดฝุ่น ใช้กำลังไฟฟ้า 750-1,200 วัตต์
อันดับที่ 8 : เครื่องปิ้งขนมปัง ใช้กำลังไฟฟ้า 800-1,000 วัตต์
อันดับที่ 9 :  ไดร์ป่าผม ใช้กำลังไฟฟ้า 400-1,000 วัตต์
อันดับที่ 10 : เตาไมโครเวฟ ใช้กำลังไฟฟ้า 100-1,000 วัตต์

รู้แบบนี้แล้ว จะได้เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ก็จะช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟในคอนโด หรือบ้านของเราได้

10 วิธีประหยัดไฟฟ้าในคอนโด

10-วิธีประหยัดไฟ_Landing-1.jpg

1. วางตู้เย็นให้ห่างจากผนังห้องและด้านข้างอย่างน้อย 15 เซนติเมตร
รวมถึงวางในตำแหน่งที่ไม่โดนแสงแดดจัด เพื่อให้ตู้เย็นมีพื้นที่ระบายความร้อนอย่างเหมาะสม นอกจากนี้การใช้งานอย่างเหมาะสมก็จะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและค่าไฟได้ เช่น เปิดเท่าที่จำเป็น ไม่นำอาหารที่กำลังร้อนจัดเข้าตู้เย็น ไม่แช่อาหารเยอะจนเกินไป ปิดให้สนิทหลังใช้ และเช็กยางขอบประตูไม่ให้มีรอยรั่วหรือเสื่อมสภาพ

2. เปิดแอร์ 26 องศาเซียลเซียส คู่กับพัดลม พร้อมเปิดพัดลมแอร์ที่ระดับสูงสุด เพื่อให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นเร็วขึ้น และจะให้ความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24 องศาเซลเซียส วิธีนี้จะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าการปรับลดอุณหภูมิแอร์ เพราะพัดลมจะช่วยเพิ่มความเร็วลมและการหมุนเวียนอากาศให้ดีขึ้น จึงทำให้เรารู้สึกสบาย แม้อุณหภูมิห้องจะยังคงเท่าเดิม

3. ใช้งานแอร์อย่างเหมาะสม เช่น ระบายอากาศในห้องก่อนเปิดแอร์เพื่อลดอุณหภูมิ ไม่ให้แอร์ทำงานหนักจนเกินไป และเมื่อเปิดแอร์ควรปิดหน้าต่าง ประตูให้สนิท ไม่รีดผ้าหรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำความร้อนขณะเปิดแอร์เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น

4. หมั่นทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศและล้างแอร์อยู่เป็นประจำ เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งแอร์และเครื่องฟอกอากาศ เป็นสิ่งจำเป็นของที่พักอาศัยเป็นอย่างมาก โดยในช่วงหน้าร้อน หรือช่วงที่มีฝุ่นหรือมลภาวะเยอะ เมื่อใช้งานไประยะเวลาหนึ่งชั้นกรองในแอร์และเครื่องฟอกอากาศจะมีฝุ่นสะสมที่แผ่นกรอง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ดังนั้น ควรเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศอยู่เป็นประจำ และหมั่นล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือล้างช่วงก่อนเข้าหน้าร้อน เพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานให้มากที่สุด

5. ปลูกต้นไม้คลายร้อน สำหรับชาวคอนโดที่มีพื้นที่ห้องจำกัด การมีต้นไม้นอกจากจะตกแต่งให้ห้องสวยงาม สบายตาแล้ว ยังช่วยเรื่องการฟอกอากาศ ขจัดมลพิษ ทำให้เย็นสบายมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกปลูกได้หลายชนิด เช่น ต้นพลูด่าง ต้นลิ้นมังกร ต้นยางอินเดีย ต้นหมากเหลือง ต้นว่านหางจระเข้ ต้นเฟิร์น ต้นไทรย้อยใบแหลม

6. ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์ การตั้งเวลาใช้งาน เป็นตัวช่วยอย่างดีในการป้องกันไม่ให้แอร์ใช้งานนานจนเกินจำเป็น และยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้สูงขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธิที่จะช่วยลดค่าไฟ คือ การปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง อาจเปิดพัดลมหลังปิดแอร์เพื่อให้อากาศเย็นในห้องหมุนเวียนได้ดีขึ้น ทำให้เราไม่รู้สึกร้อน

7. เลือกใช้ Smart Home เปิดโหมดประหยัดพลังงาน ใครว่าการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจะสิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่ายเสมอไป จริงๆ แล้วเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ดี เพราะจะมีโหมดประหยัดพลังงาน ที่เครื่องจะพักหรือปิดเมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ไฟเซ็นเซอร์ ที่จะเปิดก็ต่อเมื่อมีวัตถุ หรือคนเดินผ่าน นอกจากนี้ กรณีที่เราออกจากห้องแล้วลืมปิดไฟ หรือแอร์ ก็สามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นเพื่อปิด หรือเปิดได้ทุกเวลาตามต้องการ

8. ติดฟิล์มกรองแสงหน้าต่างคอนโด หรือเลือกใช้ผ้าม่านทึบแสง สำหรับห้องพักในคอนโดมิเนียมแต่ละห้องจะมีหน้าต่างที่รับแสงแดด ทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นได้ง่ายโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หากไม่จัดทิศทางการระบายอากาศให้ดี จะยิ่งทำให้ห้องมีอุณหภูมิสูงขึ้น และร้อนอบอ้าวได้ การติดฟิล์มกรองแสง หรือใช้ผ้าม่านทึบป้องกัน UV เป็นวิธีที่เพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในห้องได้ง่าย และยังช่วยไม่ให้แอร์ในห้องทำงานหนักมาจนเกินไปอีกด้วย

9. จัดห้องรับแสงธรรมชาติ ในช่วงเวลากลางวัน การจัดตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ มุมทำงาน มุมนั่งเล่น ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟในช่วงกลางวัน ด้วยการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ

10. พักแบรกจากใช้ไฟในห้อง ไปพักผ่อนในพื้นที่กลาง โครงการคอนโดใหม่ๆ มักมีพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็ม ครบทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งพื้นที่สีเขียวในโครงการ สระว่ายน้ำ ห้อง Co-working Space ห้องสปา ซาวน่า หรือ Co-Kitchen เพื่อให้ลูกบ้านได้มาผ่อนคลาย และใช้เวลาร่วมกับเพื่อนและครอบครัวได้อย่างเต็มที่ การหาเวลาว่างๆ ลงมาอ่านหนังสือ หรือทำงานในพื้นที่ส่วนกลางที่โครงการจัดสรรรมาให้ ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ทำให้ผู้พักอาศัยได้มีช่วงเวลาดีๆ และยังช่วยลดการใช้ไฟภายในห้องได้อีกด้วย

 

แนะนำ 5 คอนโดพื้นที่ส่วนกลางสุดอลัง

สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ BC คัด 5 โครงการคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชั่นและไลฟ์สไตล์ เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลทอง ห้องสวย ส่วนกลางดี เผื่อว่าใครอยากเปลี่ยน หรือลงทุนกับคอนโดมิเนียมสวยๆ ที่มีพื้นที่ส่วนกลางให้เราได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ จะมีโครงการไหนบ้าง มาดูกัน

1. Life Sathorn Sierra

11-Life-Sathorn-Sierra.jpg

08-Life-Sathorn-Sierra.jpg

Life-Sathorn-Sierra-1.jpg

10-Life-Sathorn-Sierra.jpg

โครงการไลฟ์ สาทร เซียร์รา
คอนโดมิเนียมสีเขียวมิติใหม่ ใกล้ BTS ตลาดพลู เพียง 150 เมตร เป็นโครงการพร้อมอยู่ที่สูงและใหญ่ที่สุดในย่าน ด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ นอกจากโดดเด่นเรื่องพื้นที่สีเขียวแล้ว โครงการยังมี Co-Living Space และ Social Lounge ที่เป็นพื้นที่พักผ่อน รองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ จะมานั่งทำงาน ประชุม หรือสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนในบรรยากาศแอร์เย็นฉ่ำๆ พร้อมรับชมวิวสระว่ายน้ำและสวนของโครงการ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เย็นสบาย ราวกับว่ากำลังพักร้อนอยู่ในรีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติ

2. Life Asoke Hype

4Phu1fFes92nipPVVoTgJIsZWGRUL1-metaZ2FsbGVyeV9pbWFnZV80My5qcGc--.jpg

Life-Asoke-Hype-10.jpg

Life-Asoke-Hype-12.jpg

Life-Asoke-Hype-Art-Gallery.jpg

ไลฟ์ อโศก ไฮป์ บูทีคคอนโดพร้อมอยู่ ติด MRT พระราม 9 เพียง 300 เมตร มีส่วนกลางมากถึง 5 ชั้น  ทั้ง Sunken Lounge, สระว่ายน้ำวิวเมือง, สวนลอยฟ้า, ฟิตเนสลอยฟ้า 2 ชั้น และอีกมากมาย ภายในโครงการออกแบบพร้อมตกแต่งด้วยวัสดุดีไซน์เนอร์ระดับโลก ลูกบ้านสามารถพักเบรกจากการทำงาน หรือใช้ไฟในห้อง แล้วเดินลงมาชมผลงานศิลปะในพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ แต่ละยูนิตทางโครงการมีติดตั้ง SMART Home Automation ให้ภายในห้องด้วย สามารถเปิด-ปิด ไฟ และควบคุมอุณหภูมิแอร์ภายในห้องได้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหมาะแก่การพักอาศัย ช่วยคุณประหยัดพลังงานได้แบบจัดเต็ม

 
3. RHYTHM Charoenkrung Pavillion

01_Cloud-Facility.jpg

08_Sky-Lounge2.jpg

05_Gym.jpg

07_Sky-Lounge.jpg

รึทึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน
ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมใหม่พร้อมเข้าอยู่ ใจกลางเจริญกรุง ให้คุณได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยากว่า 3.5 ไร่ มี The Pavilion เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือจัดปาร์ตี้ได้ นอกจากนี้ยังมี Sky Lounge ที่รองรับทุกการสังสรรรค์และการจัดเลี้ยง รับชมวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มตา หรือจะลงมาออกกำลังกาย หรือว่ายน้ำคลายร้อนก็ยังเพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆ ของเมืองกรุงเทพฯ และแม่น้ำได้อีกเช่นกัน

4. 125 Sathorn

220204_hero_shot_Final_04February_Final.jpg

gal-1.jpg

gal-7.jpg

gal-8.jpg

โครงการ 125 สาทร
อีกหนึ่งลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมใจกลางสาทร ที่ออกแบบมาเสมือนเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่มีมุมพักผ่อนมากกว่า 4,500 ตร.ม. รองรับการใช้งานทุกโอกาส ตั้งแต่กิจกรรมปิกนิก กีฬาในครอบครัว งานสังสรรค์ ห้องซ้อมดนตรี สปาและฟิตเนส สำหรับพื้นที่ด้านบนจะเป็น 125 Clubhouse ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้องคาราโอเกะ โรงภาพยนตร์ ห้องอาหารพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ช่วยคุณคลายร้อนพร้อมยกระดับการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

5. Mulberry Grove

00-Mulberry-Grove-Sukhumvit.jpg

03-Mulberry-Grove-Sukhumvit.jpg

private_spa_01.jpg

pool.jpg

โครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท คอนโดมิเนียมหรูติดถนนใหญ่เส้นสุขุมวิท ห่างจาก BTS สถานีเอกมัย เพียง 300 เมตร ชูคอนเซปต์เรื่อง “Intergeneration Living Community” เน้นการอยู่เป็นครอบครัว มีพื้นที่ส่วนกลางหลายโซนที่ตอบโจทย์คนทุกวัย ทั้งสปา ออนเซน ห้องกิจกรรมครอบครัว ห้องแต่งหน้า ทำเล็บ และเลาจ์สุดหรูชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้โครงการโดดเด่นกว่าที่อื่นๆ คือ Wellness Facilities บริการให้คำปรึกษาด้านการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ เหมาะกับผู้พักอาศัยที่ต้องการใช้เวลาร่วมกับครอบครัวอย่างแท้จริง

สรุป

หากคุณไม่อยากปวดหัว หรือกังวลกับค่าไฟรายเดือน อย่าลืมนำทริคดีๆ ที่ BC รวมรวมมาให้แล้วในบทความนี้ ไปลองปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ และหากใครสนใจโครงการคอนโดมิเนียมทำเลไหน ติดต่อ สอบถาม หรือทักเข้ามาปรึกษากับ BC ได้ที่ Line @bangkokcitismart หรือ เช็กราคา โปรโมชั่นคอนโดมิเนียมสุดพิเศษ คลิก


ต่อไปเราจะมีทริคดีๆ อะไรที่น่าสนใจสำหรับชาวคอนโดอีก กดติดตาม BC ได้ตามช่องทางนี้ Facebook, Instagram, YouTube และ Line Official

 

อ่านเพิ่มเติม