วันที่ 27 กันยายน 2565

วิเคราะห์ เจาะทำเล รัชโยธิน ครบทุกความหลากหลาย ติดรถไฟฟ้าแค่ 0 เมตร

BC_วิเคราะห์เจาะทำเล_รัชโยธิน_Landing.jpg

หลายคนอาจจะรู้จักสถานที่สำคัญอย่างตึกช้าง SCB Park หรือเมเจอร์รัชโยธิน รัชโยธิน ซึ่งนั่นคือภาพเดิมของรัชโยธินในอดีต ในปัจจุบันรัชโยธินเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก โดยได้รับอิทธิพลความเป็นเมืองมาจากถนนรัชดาภิเษก และถนนพหลโยธิน ช่วงห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงมีอาคารสำนักงานชั้นนำหลายแห่ง มีแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์ชื่อดัง มีร้านอาหาร บาร์ สถานศึกษา และโรงพยาบาล ส่งผลให้ทำเลนี้มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กลายเป็นแหล่งงานของชาวออฟฟิศขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยตามมา

จนกระทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะเห็นว่า ตั้งแต่ปี 2020 Developer ลดการเปิดตัวของโครงการลงค่อนข้างมาก จนกระทั่งในปี 2022 โครงการคอนโดมิเนี่ยมในย่านรัชโยธิน กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง

Supply โซนรัชโยธิน (ข้อมูล ณ กันยายน 2565)


BC_วิเคราะห์เจาะทำเล_รัชโยธิน_Landing1.jpg

โครงการ Low Rise ค่อนข้างเป็นที่นิยม ดูจากยอดขายในแต่ละโซนที่ทำได้ดีเมื่อเทียบกับโครงการ High Rise ซึ่งโซนที่มี Supply มากที่สุดคือ รัชโยธิน 2 (RAT2) โครงการทั้งหมด 25 โครงการ ยูนิตทั้งหมด 11,717 ยูนิต รองลงมาคือ ลาดพร้าว 2 (LAD2) โครงการทั้งหมด 28 โครงการ ยูนิตทั้งหมด 10,198 ยูนิต

Demand & Supply โซนรัชโยธิน (ข้อมูล ณ กันยายน 2565)


BC_วิเคราะห์เจาะทำเล_รัชโยธิน_Landing2.jpg

ส่วนมากโครงการของโซนรัชโยธินจะกระจุกตัวอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ติดถนนพหลโยธิน โดยเป็นโครงการ High Rise เป็นหลัก ส่วนโครงการ Low Rise จะอยู่เข้าไปภายในซอยของโซนรัชโยธิน 2 (RAT2)

จากพายกราฟด้านขวา จะเห็นว่า ยอดขายของคอนโดรัชโยธินถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูง 80-100% ผู้ซื้อส่วนใหญ่ให้ความสนใจคอนโดรัชโยธิน เนื่องจากอยู่ใกล้ทำเลลาดพร้าวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ยอดขายคอนโดรัชโยธินโดยรวม จะเห็นว่า โซนลาดพร้าว 1 (LAD1) มียอดขายสูงที่สุด 100% (Sold Out) ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับเซ็นทรัลลาดพร้าวและใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีพหลโยธิน 24 และหากดูโครงการเปิดตัวรายปีตั้งแต่ปี 2017 จะเห็นว่าแทบไม่ได้มีโครงการใหม่ ๆ เปิดตัวในโซนนี้เลย

ยอดขายคอนโดรัชโยธินที่รองลงมา คือ โซนรัชโยธิน 2 (RAT2) มียอดขายรองลงมาอยู่ที่ 93% เป็นฝั่งตรงข้ามกับเมเจอร์รัชโยธินและค่อนไปทางรถไฟฟ้า BTS สถานีเสนา ซึ่งโครงการส่วนใหญ่เป็น Low Rise 18 โครงการ และเป็นโครงการ High Rise 7 โครงการ

คอนโดรัชโยธินที่เปิดตัวใหม่ในปี 2021-2022


- รัชโยธิน 1 (RAT1) ได้แก่ THE MUVE KASET, ASPIRE Ratchayothin, Blue Phahonyothin 35 และ Ratchayothin Station
- ลาดพร้าว 2 (LAD2) ได้แก่ THE LINE VIBE

Take-up Rate (ข้อมูล ณ กันยายน 2565)


BC_วิเคราะห์เจาะทำเล_รัชโยธิน_Landing3.jpg

ยอดขายคอนโดรัชโยธิน พบว่า โครงการ Low Rise ในแทบจะทุกโซน มีเปอร์เซ็นต์ขายสูงกว่าโครงการ High Rise แม้แต่โครงการที่เปิดตัวในปี 2021-2022 จะเห็นว่าคอนโด Low Rise ก็ยังมียอดขายที่สูงกว่าคอนโด High Rise ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน ด้วยราคาที่ไม่ได้สูงมาก และอยู่ในซอยไม่ได้ลึกมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึง Demand ของคนที่ซื้อคอนโดในย่านรัชโยธินว่าคอนโด Low Rise ค่อนข้างตอบโจทย์มากกว่า บ่งบอกถึงความสามารถในการปล่อยเช่าที่มีโอกาสจะปล่อยเช่าได้เร็วนั่นเอง

ราคารีเซลล์และการเติบโตของคอนโดรัชโยธิน (ข้อมูล ณ กันยายน 2565)


BC_วิเคราะห์เจาะทำเล_รัชโยธิน_Landing4.jpg

  • คอนโดรัชโยธิน High Rise ที่มีราคารีเซลล์ต่อตารางเมตร ต่ำที่สุด คือ RAT1 ประมาณ 100,000 บาท
  • คอนโดรัชโยธิน High Rise ที่มีราคารีเซลล์ต่อตารางเมตร สูงที่สุด คือ LAD1 ประมาณ 156,000 บาท
  • คอนโดรัชโยธิน Low Rise ที่มีราคารีเซลล์ต่อตารางเมตร ต่ำที่สุด คือ RAT2 ประมาณ 79,000 บาท
  • คอนโดรัชโยธิน Low Rise ที่มีราคารีเซลล์ต่อตารางเมตร สูงที่สุด คือ RAT1 ประมาณ 115,000 บาท

ปัจจัยหลักที่เป็นผลให้คอนโด Low Rise ในย่านรัชโยธินตอบโจทย์ความต้องการของคนซื้อ คงเป็นเรื่องราคาที่ต่ำกว่าคอนโด High Rise ที่อยู่ติดกับถนนพหลโยธิน ซึ่งหากคุณไม่ได้เป็นคนซีเรียสเรื่องการเดินทางเข้า-ออกจากซอยแล้ว การอยู่คอนโด Low Rise ก็ดูจะเหมาะสมกับการซื้ออยู่เองมากกว่า นอกจากนี้ หากมองกราฟด้านขวาถึงการเติบโตของราคาของคอนโดรัชโยธิน โดยรวมแล้วคาดว่าจะเป็นไปในทิศทางบวก หรือแย่หน่อยก็อาจเสมอตัวครับ

BC_วิเคราะห์เจาะทำเล_รัชโยธิน_Landing5.jpg

ด้านการเติบโตของราคาคอนโดรัชโยธิน พบว่า ในระยะ 500 เมตร จากรถไฟฟ้า โซนลาดพร้าว 2 (LAT2) มีการเติบโตของราคาที่ดีกว่าโซนอื่น และการเติบโตของราคาจากปีที่แล้ว เป็นไปในทิศทางบวก เนื่องจากใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง Shopping mall อย่าง Central Ladprao, Lotus, และ Major Ratchayothin ใกล้สถานศึกษา และแหล่งการทำงาน อาทิ ม.เกษตรศาสตร์ และ SCB Park ทำให้โครงการคอนโด Low Rise เป็นที่น่าลงทุนทั้งอยู่เอง และปล่อยเช่าครับ

อัตราการปล่อยเช่าของคอนโดรัชโยธิน (Yield) (ข้อมูล ณ กันยายน 2565)


BC_วิเคราะห์เจาะทำเล_รัชโยธิน_Landing6.jpg

อัตราการปล่อยเช่าของคอนโดรัชโยธิน (Yield) อยู่ที่ประมาณ 4-5% โดยโซนรัชโยธิน 2 (RAT2) และลาดพร้าว 2 (LAD2) เป็นโซนที่มี Yield ค่อนข้างดีกว่าโซนอื่น ๆ โดยจะอยู่ฝั่งที่สามารถเดินทางเข้าเมืองอย่างสุขุมวิท หรือสยามได้สะดวกกว่า แต่ถ้าเปรียบเทียบกับคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในระยะ 500 เมตรแล้ว ค่าเช่าและอัตราการปล่อยเช่า (Yield) ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

โครงการแนะนำในย่านรัชโยธิน


ASPIRE รัชโยธิน คอนโดใหม่จาก AP Thai เพียง 350 ม. จาก BTS รัชโยธิน เพียง 2.19 ล้าน* มาพร้อม Unit Layout รูปแบบใหม่จาก AP ภายใต้การออกแบบ Modern Retreat Experience ตอบทุกอิสระคนเมืองรุ่นใหม่ รองรับทั้งการพักผ่อน การทำงาน และการผ่อนคลาย

ASPIRE-รัชโยธิน-1.png

ASPIRE รัชโยธิน มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 5 ไร่, จำนวนยูนิตเพียง 633 ยูนิต + 1 ร้านค้า, ลานจอดรถ 191 คัน (30%) ไม่รวมจอดซ้อนคัน มาพร้อมรูปแบบห้อง Studdio (25 ตร.ม.), 1 Bedroom (28 ตร.ม.) และ 1 Bedroom Plus (35 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 2.19 - 2.69 ล้านบาท (88,000 บาทต่อตารางเมตร)

ASPIRE-รัชโยธิน-2.png

ASPIRE-รัชโยธิน-3.png

สรุปแล้ว คอนโดรัชโยธิน ยังคงเป็นที่นิยมของผู้ซื้อไปอีกนาน โดยเฉพาะคอนโด Low Rise ที่อยู่ฝั่งรัชโยธิน 2 (RAT2) และลาดพร้าว 2 (LAD2) ที่มียอดขายโดยรวมกับอัตราค่าเช่าทำได้ดีกว่าโซนอื่น ๆ สามารถเดินทางเข้าสู่เมืองได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องกลับรถ ส่วนคอนโดใหม่ที่กระแสมาแรงก็คงหนีไม่พ้น ASPIRE รัชโยธิน เริ่ม 2.19 - 2.69 ล้านบาท (88,000 บาทต่อตารางเมตร) เพียง 350 เมตร จาก BTS รัชโยธิน BC จึงมั่นใจว่าคอนโดรัชโยธินในอนาคตจะมี Supply ที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเข้ามาอาศัยของผู้คนที่มองหาคอนโดที่มีทำเลไม่ใกล้ไม่ไกลตัวเมือง รวมถึงการมองหาคอนโดราคาย่อมเยาที่มีราคาต่อตารางเมตรไม่เกิน 120,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม