วันที่ 18 สิงหาคม 2565

TOP 5 อสังหาฯ ไทย ที่โกยกำไรครึ่งปีสูงที่สุด

TOP-5-อสังหาฯ-ไทย-ที่โกยกำไรครึ่งปีสูงสุด-2.png

ปัจจุบัน ในไตรมาส 2 ปี 2565 (เม.ย.-มิ.ย.) ภาพอสังหาฯ ของไทย ต้องเจอกับความเสี่ยงหลายอย่าง โดยเฉพาะปัจจัยลบที่มีมากกว่าปัจจัยบวก ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลข GDP ขยายตัวเพียง 2.5% ขยับตัวดีขึ้นมาเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า คือ ภาพการดิ้นรนของผู้ประกอบการในหลายธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วย

ซึ่งภาพใหญ่เศรษฐกิจไทย ต้องเจอทั้งความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก, ภาระหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง, ความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 และความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ

อีกทั้งต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยจากเงินเฟ้อ เงินบาทอ่อนค่า ต้นทุนวัสดุแพงขึ้น หรือผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้แหล่งผลิตวัสดุก่อสร้างอย่าง "เหล็ก" มีราคาสูงขึ้นถึง 35% และเมื่อจำแนกต้นทุนการก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยในหมวดต่าง ๆ เช่น งานวิศวกรรม, งานสถาปัตยกรรม, ระบบไฟฟ้า - สื่อสาร และสุขาภิบาล ก็มีการปรับขึ้นยกแผง ถือเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของผู้ประกอบการในช่วงฟื้นตัวหลังโควิด ส่วนทางด้านลูกค้าก็ยังถูกธนาคารปฏิเสธสินเชื่อ (รีเจ็กต์) ไม่สามารถรับโอนกรรมสิทธิ์ได้ในอัตราสูงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการในกลุ่ม Listed Companies หรือ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สามารถจับสัญญาณ ปรับกลยุทธ์ และตั้งหลัก ลดความเสี่ยงของตลาดได้ในทุก ๆ มิติมาแล้วอย่างดี ประกอบกับลูกค้ายังคงให้ความเชื่อมั่นต่อแบรนด์และสินค้า ท่ามกลางความเหนื่อยอ่อน ล้มหายตายจากไปของรายเล็กๆ ในตลาด ทำให้นี่จึงกลายเป็นโอกาสในการทำรายได้ และกำไรอย่างมหาศาลอย่างมีนัยน่าศึกษา

โดยเฉพาะ TOP5 อสังหาฯ ไทย ที่ทำกำไรได้สูงสุดในครึ่งปี 65 เรียงกำไรจากน้อยไปมากได้ดังนี้


อันดับ 5
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI โดยผลประกอบการของบิ๊กอสังหาฯรายนี้ งวด 6 เดือน มีรายได้รวม13,057 ล้านบาท ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิ ขยับขึ้นมา 17% จาก 1,046 ล้านบาท มาอยู่ที่ 1,220 ล้านบาท ทั้งนี้พบแม้รายได้ในกลุ่มบ้านเดี่ยว และคอนโดฯ ชะลอตัวลง แต่ได้แรงหนุนจากการขายโครงการมิกซ์โปรดักส์ และทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น 43% และ 44% ตามลำดับ เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

อันดับ 4
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กลุ่มธุรกิจที่แตกย่อยหลายแขนง มีโครงการคอนโดฯเป็นพระเอก พบในช่วงครึ่งปีแรก 2565 ทำกำไรสุทธิได้ 1,893 ล้านบาท โดยน่าสนใจในแง่การลดลงของต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการขาย ภายใต้กลยุทธ์ Everyone can sell อีกทั้งมีรายได้จากการเปิดใหม่กลุ่มโรงแรม และค่าบริหารจัดการเข้ามาช่วยหนุนอีกทาง รักษาระดับการแข่งขันได้อย่างน่าสนใจ

อันดับ 3
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALL ครึ่งปีแรก ผลงานโดดเด่น หลังลูกค้าตอบรับการโอนกรรมสิทธิ์ ในกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมที่แล้วเสร็จ รวมถึงแนวราบพร้อมอยู่ฯ ที่กระจายหลากหลายทำเล ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ทำให้มีรายได้รวม สูงถึง 14,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% และกำไรสุทธิ 3,253 ล้านบาท โตกว่า 32% เตรียมทำสถิติสูงสุดใหม่อีกรอบ

อันดับ 2
บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกแง่ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขรายได้รวม กำไร ยอดขาย ตลอดจนจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย 6 เดือนแรก เอพี เผยสามารถทำรายได้รวมกว่า 25,270 ล้านบาท ขณะกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,304 ล้านบาท ทั้งนี้ มีสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ยังคงเป็นคีย์ไดรฟ์สำคัญของผลประกอบการปีนี้

อันดับ 1
บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH โดยงบการเงิน 6 เดือน ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 4,070 ล้านบาท เป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรม ตัวเลขเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 12.64% ซึ่งหลักยังมาจากรายได้การขายโครงการบ้านเดี่ยว,ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ที่ 15,325 ล้านบาท แม้ลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถยืนเป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมได้อย่างแข็งแกร่ง และมีรายได้จากค่าเช่า-บริการ, บริษัทร่วมลงทุนเติมเต็มร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตามอง ถึงทิศทางผลประกอบการอสังหาฯ ในระยะข้างหน้า คือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ตามแรงบีบ อัตราดอกเบี้ยโยบาย 0.75% ต่อปี และ อาจไปแตะถึงะดับ1-1.25% ต่อปี ในช่วงสิ้นปี 2565 ซึ่งจากสูตรคำนวณ จะพบว่าทุกการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% จะส่งผลกระทบต่อการผ่อนที่อยู่อาศัยราว 7% นั่นหมายถึง ภาพกำลังซื้ออาจมีแนวโน้มลดลง ขณะเดียวกัน ต้นทุนทางการเงินของผู้พัฒนาฯก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
อ่านเพิ่มเติม