พฤติกรรมต่างๆ รับสังคมยุค New Normal ที่เราต้องปรับตัว
หลังจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 มีการระบาด ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยได้มีการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตบนสังคมใหม่ที่เรียกว่า ความปกติใหม่ หรือ New Normal ที่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ถึงแม้ว่าปัจจุบัน รัฐบาลจะเริ่มควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้แล้ว แต่ถ้าหากพวกเรายังต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม ต้องเริ่มเรียนรู้และปฏิบัติตาม ส่วนพฤติกรรมอะไรที่เรียกว่าเป็น New Normal บ้าง แล้วเราจำเป็นต้องปฏิบัติสิ่งไหน ไปดูกันเลยครับ
New Normal ต้องใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง 1 เมตร
แน่นอนว่าถึงแม้โรคระบาดจะค่อยๆ หมดไปแล้ว แต่อย่าลืมว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลกยังไม่หยุดระบาด ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัส COVID-19 ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน และที่สำคัญยังไม่มีวัคซีนที่รักษาได้โดยตรง ต้องรักษาตามอาการเท่านั้น ทำให้เราชะล่าใจไม่ได้ การพกหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน พกเจลแอลกอฮอลล์ติดตัว และการรักษาระยะห่างจากผู้อื่น (Social Disrancing) ไม่ว่าจะต้องเดินทาง หรือนั่งรับประทานอาหาร ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติให้เป็นปกติอยู่นั่นเองครับ
New Normal เปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปปิ้ง
ต้องยอมรับเลยว่า แอปพลิเคชั่นที่ขายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงที่ทุกคนต้องทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home เนื่องจากกังวลกับการที่จะต้องออกไปซื้อสินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ต การมีแอปพลิเคชั่นซื้อของออนไลน์จึงช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น ดังนั้น แอปพลิเคชั่นเหล่านี้จึงเป็นช่องทางใหม่ที่แจ้งเกิดพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนมากเลยทีเดียวครับ
New Normal ทำงานอยู่บ้านได้ ประหยัดค่าเดินทาง
จากการที่ทุกคนหันมาทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ทำให้เราได้เรียนรู้กันว่าจริงๆ แล้วการทำงานที่บ้านก็ทำให้งานสำเร็จได้ ซึ่งข้อดีคือทำให้ทั้งพนักงานและบริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ และเป็นโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงานไอเดียใหม่ๆ ที่อาจผุดขึ้นมาขณะที่เราเปลี่ยนบรรยากาศมาทำงานที่บ้านครับ
New Normal ผุดอาชีพใหม่ๆ
อาชีพใหม่ๆ ก็คืองานอดิเรกหรืองานเสริมที่อาจสร้างรายได้ให้กับเราได้ครับ เพราะหลังจากรัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ทำให้สถานที่และธุรกิจต่างๆ ปิดหลายแห่ง จนบางคนไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้ การมีอาชีพเสริมแล้วขายออนไลน์จึงเป็น New Normal ใหม่ที่เกิดพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจหลายๆ ประเภทต้องปรับตัวให้ตอบรับกับยุค New Normal เช่น การขายอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ผ่านการ LIVE สด, บริการดูแลสุขภาพผ่านระบบ Telehealth, การบริการทำเล็บ ทำผม ถึงบ้าน,
New Normal ดันธุรกิจ Delivery ด้านยอดขายและส่งเสริมอาชีพ
จริงๆ บริการส่งอาหารหรือเดลิเวอร์รี่ก็มีมานานแล้ว แต่เมื่อธุรกิจร้านค้าปิด ห้างสรรพสินค้าปิด บริการนี้จึงได้รับความนิยมมากขึ้น คนมักจะสั่งอาหารมาทานที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการออกไปพบปะผู้คนที่เสี่ยงต่อการติดโรค COVID-19 ขณะเดียวกัน ธุรกิจเดลิเวอร์รี่ก็เป็นการสร้างอาชีพขับรถบริการส่งของหรือส่งอาหารให้กับคนที่ไม่สามารถออกไปทำงานปกติได้ นอกจากนี้ ร้านอาหารเองก็ต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการย้ายไปอยู่ในแอปพลิเคชั่น หรือแม้แต่การจัดเตรียมสถานที่หน้าร้าน กั้นบริเวณให้นั่งโต๊ะละ 1 คน ซึ่งความปกติใหม่นี้ เป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นชิน แต่ในอีกไม่นาน เชื่อว่าทุกคนจะต้องปรับตัวกันได้แน่นอนครับ
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ที่เรายังต้องเรียนรู้และปฏิบัติไปพร้อมๆ กัน ควรหมั่นสังเกตดู และไม่อยู่ในที่ที่คนกำลังพลุกพล่าน เช่น ขนส่งสาธารณะ ต้องเว้นระยะห่าง หรือเลี่ยงมาใช้รถยนต์ส่วนตัวแทน ส่วนพฤติกรรมที่ยังคงต้องปฏิบัติอยู่ เช่น หมั่นล้างมือหลังไปสัมผัสสิ่งของต่างๆ ใส่หน้ากากอนามัย ควรทำให้เป็นนิสัยคุ้นชิน เพราะหลังจากนี้ก็ไม่อาจทราบได้ว่าโรคต่างๆ จะกลับมาระบาดอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น ควรดูแลรักษาสุขภาพให้ถูกสุขลักษณะอนามัยอยู่เสมอนะครับ
หลังจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 มีการระบาด ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยได้มีการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตบนสังคมใหม่ที่เรียกว่า ความปกติใหม่ หรือ New Normal ที่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ถึงแม้ว่าปัจจุบัน รัฐบาลจะเริ่มควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้แล้ว แต่ถ้าหากพวกเรายังต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม ต้องเริ่มเรียนรู้และปฏิบัติตาม ส่วนพฤติกรรมอะไรที่เรียกว่าเป็น New Normal บ้าง แล้วเราจำเป็นต้องปฏิบัติสิ่งไหน ไปดูกันเลยครับ
New Normal ต้องใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง 1 เมตร
แน่นอนว่าถึงแม้โรคระบาดจะค่อยๆ หมดไปแล้ว แต่อย่าลืมว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลกยังไม่หยุดระบาด ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัส COVID-19 ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน และที่สำคัญยังไม่มีวัคซีนที่รักษาได้โดยตรง ต้องรักษาตามอาการเท่านั้น ทำให้เราชะล่าใจไม่ได้ การพกหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน พกเจลแอลกอฮอลล์ติดตัว และการรักษาระยะห่างจากผู้อื่น (Social Disrancing) ไม่ว่าจะต้องเดินทาง หรือนั่งรับประทานอาหาร ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติให้เป็นปกติอยู่นั่นเองครับ
New Normal เปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปปิ้ง
ต้องยอมรับเลยว่า แอปพลิเคชั่นที่ขายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงที่ทุกคนต้องทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home เนื่องจากกังวลกับการที่จะต้องออกไปซื้อสินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ต การมีแอปพลิเคชั่นซื้อของออนไลน์จึงช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น ดังนั้น แอปพลิเคชั่นเหล่านี้จึงเป็นช่องทางใหม่ที่แจ้งเกิดพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนมากเลยทีเดียวครับ
New Normal ทำงานอยู่บ้านได้ ประหยัดค่าเดินทาง
จากการที่ทุกคนหันมาทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ทำให้เราได้เรียนรู้กันว่าจริงๆ แล้วการทำงานที่บ้านก็ทำให้งานสำเร็จได้ ซึ่งข้อดีคือทำให้ทั้งพนักงานและบริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ และเป็นโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงานไอเดียใหม่ๆ ที่อาจผุดขึ้นมาขณะที่เราเปลี่ยนบรรยากาศมาทำงานที่บ้านครับ
New Normal ผุดอาชีพใหม่ๆ
อาชีพใหม่ๆ ก็คืองานอดิเรกหรืองานเสริมที่อาจสร้างรายได้ให้กับเราได้ครับ เพราะหลังจากรัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ทำให้สถานที่และธุรกิจต่างๆ ปิดหลายแห่ง จนบางคนไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้ การมีอาชีพเสริมแล้วขายออนไลน์จึงเป็น New Normal ใหม่ที่เกิดพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจหลายๆ ประเภทต้องปรับตัวให้ตอบรับกับยุค New Normal เช่น การขายอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ผ่านการ LIVE สด, บริการดูแลสุขภาพผ่านระบบ Telehealth, การบริการทำเล็บ ทำผม ถึงบ้าน,
New Normal ดันธุรกิจ Delivery ด้านยอดขายและส่งเสริมอาชีพ
จริงๆ บริการส่งอาหารหรือเดลิเวอร์รี่ก็มีมานานแล้ว แต่เมื่อธุรกิจร้านค้าปิด ห้างสรรพสินค้าปิด บริการนี้จึงได้รับความนิยมมากขึ้น คนมักจะสั่งอาหารมาทานที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการออกไปพบปะผู้คนที่เสี่ยงต่อการติดโรค COVID-19 ขณะเดียวกัน ธุรกิจเดลิเวอร์รี่ก็เป็นการสร้างอาชีพขับรถบริการส่งของหรือส่งอาหารให้กับคนที่ไม่สามารถออกไปทำงานปกติได้ นอกจากนี้ ร้านอาหารเองก็ต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการย้ายไปอยู่ในแอปพลิเคชั่น หรือแม้แต่การจัดเตรียมสถานที่หน้าร้าน กั้นบริเวณให้นั่งโต๊ะละ 1 คน ซึ่งความปกติใหม่นี้ เป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นชิน แต่ในอีกไม่นาน เชื่อว่าทุกคนจะต้องปรับตัวกันได้แน่นอนครับ
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ที่เรายังต้องเรียนรู้และปฏิบัติไปพร้อมๆ กัน ควรหมั่นสังเกตดู และไม่อยู่ในที่ที่คนกำลังพลุกพล่าน เช่น ขนส่งสาธารณะ ต้องเว้นระยะห่าง หรือเลี่ยงมาใช้รถยนต์ส่วนตัวแทน ส่วนพฤติกรรมที่ยังคงต้องปฏิบัติอยู่ เช่น หมั่นล้างมือหลังไปสัมผัสสิ่งของต่างๆ ใส่หน้ากากอนามัย ควรทำให้เป็นนิสัยคุ้นชิน เพราะหลังจากนี้ก็ไม่อาจทราบได้ว่าโรคต่างๆ จะกลับมาระบาดอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น ควรดูแลรักษาสุขภาพให้ถูกสุขลักษณะอนามัยอยู่เสมอนะครับ
