วันที่ 6 สิงหาคม 2563

ซื้อคอนโดฉบับฟรีแลนซ์ ออมเก่ง เสียภาษี กู้ผ่านชัวร์!

ฟรีแลนซ์ก็ซื้อคอนโดเองได้ เพียงแค่มีวินัยในการออม และเสียภาษีทุกปี

ฟรีแลนซ์.jpg

สำหรับชาวฟรีแลนซ์ที่อยากมีคอนโดเป็นของตัวเอง จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราจัดการกับเครดิตและเงินออมของเราดี ๆ จะทำให้ธนาคารเห็นว่าเราสามารถรับภาระการผ่อนได้จริง ๆ และยังมีโอกาสกู้ผ่านมากขึ้นด้วย ดังนั้น
Bangkok Citismart จึงได้รวบรวมวิธีการออมเงินและเอกสารในการยื่นกู้กับธนาคารมาฝาก เพื่อให้ชาวฟรีแลนซ์ได้เริ่มเตรียมตัวก่อนจะยื่นกู้นั่นเองครับ

ฟรีแลนซ์ต้องเริ่มต้นด้วยการทำรายรับรายจ่าย

จะซื้อบ้านหรือคอนโด จำเป็นต้องมีเงินเก็บก้อนหนึ่งครับ เพราะฉะนั้น การออมเงินเบื้องต้นที่ดีที่สุดคือ การทำรายรับรายจ่าย เพื่อให้เราสามารถทราบว่าแต่ละเดือนเราฟุ่มเฟือยไปกับเรื่องอะไรบ้าง หรือเราสามารถหารายได้จากช่องทางอื่นได้อีกหรือไม่ สุดท้ายแล้ว หากเรามีเงินออมมาก ก็จะทำให้ธนาคารประเมินรายได้ขั้นต่ำของเรามากขึ้น โอกาสในการขอกู้คอนโดผ่านก็ยิ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกันครับ 

ฟรีแลนซ์ต้องหักรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อออม

เนื่องจากทุกเดือน ฟรีแลนซ์มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ เราควรมีเป้าหมายในใจว่าแต่ละเดือนจะต้องออมเงินอย่างน้อยกี่บาท อาจจะหักเป็นเปอร์เซ็นต์จากรายได้ที่เข้ามาในแต่ละครั้ง เช่น ถ้าฟรีแลนซ์ได้รับรายได้จากค่างาน 8,000 บาท อาจจะหักเป็นเงินออมเลยร้อยละ 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ เท่ากับว่าชาวฟรีแลนซ์จะมีเงินออม 800 - 1,600 บาท ยิ่งถ้ามีงานเยอะ ก็ยิ่งออมได้มาก แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการออมของแต่ละคนด้วยครับ แต่การออมขั้นต่ำ 10 - 20% จะช่วยให้ธนาคารประเมินรายได้ขั้นต่ำได้ และยังช่วยเพิ่มวินัยการออมเงินในเดือนที่มีรายได้เยอะกว่าปกติด้วยครับ (อ่านเพิ่มเติม ออมเงิน สักนิด ก่อนคิด ซื้อบ้านสักหลัง)

ฟรีแลนซ์ต้องหาวิธีออมเงินที่ได้ดอกเบี้ยสูง

การออมเงินเฉย ๆ แน่นอนว่ามันไม่ได้ดอกผลที่งอกเงย และเงินในบัญชีก็ยังค่อย ๆ ลดลงตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นด้วย ดังนั้น การนำเงินออมไปฝากกับบัญชีฝากประจำดอกเบี้ยสูง หรือนำไปลงทุนกับกองทุนต่าง ๆ ก็ย่อมจะได้ผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่คุ้มค่ากว่ามาก แต่อย่าลืมว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ชาวฟรีแลนซ์ต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกช่องทางลงทุนที่เหมาะสมกับตนเองนะครับ

หลังจากที่ออมเงินแล้ว ก็มาถึงเรื่องการยื่นภาษีที่จำเป็นต้องยื่นประจำทุกปี ซึ่งจะช่วยยืนยันว่าฟรีแลนซ์มีรายได้ตลอดทั้งปีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนรายได้อื่น ๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการทางภาษี ธนาคารมักจะไม่นำมานับเป็นรายได้ โดยหลักฐานทางภาษีที่ฟรีแลนซ์จำเป็นต้องแสดงกับธนาคารเมื่อกู้คอนโด มีดังนี้

  • หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่ายนั้น จะเป็นหลักฐานที่มาของรายได้ของชาวฟรีแลนซ์ เปรียบเสมือนสลิปเงินเดือนเลยก็ว่าได้ หากมีการจ้างงานหนึ่งครั้ง ลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างจะต้องเป็นผู้ออกเอกสารฉบับนี้ให้กับชาวฟรีแลนซ์ และมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามเงื่อนไขที่ว่าจ้างกันไว้ เช่น ค่าบริการหักร้อยละ 3 ของเงินค่าจ้าง เป็นต้น

50-ทวิ.jpg

  • แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90)

แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นเอกสารที่ผู้มีรายได้ทุกคนจำเป็นต้องยื่นต่อกรมสรรพากรทุกปี โดยชาวฟรีแลนซ์หรือผู้มีรายได้หลายทางให้ใช้ ภ.ง.ด. 90 เพื่อแสดงรายได้ของปีที่ผ่านมา และจำนวนเงินต้องสัมพันธ์กับรายได้และภาษีหัก ณ ที่จ่ายจาก 50 ทวิ ด้วย

ภงด.90.png

นอกจากนี้ยังสามารถขอคืนภาษีดังกล่าวได้ โดยแสดงรายการค่าใช้จ่ายและเอกสารที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีในการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 เช่น ใบเสร็จรับเงินจ่ายเบี้ยประกัน เอกสารการซื้อกองทุน LTF เอกสารการซื้อกองทุน RMF เอกสารรับรองบุตร ทะเบียนสมรส เป็นต้น เงินคืนภาษีนี้ก็จะเป็นการเพิ่มเงินออมอีกทางหนึ่งครับ

บัตรเครดิต ช่วยเพิ่มเครดิต

นอกจากนี้ หากเปิดบัตรเครดิตก็จะเป็นตัวช่วยให้ธนาคารสามารถพิจารณาพฤติกรรมกรใช้จ่ายและวินัยทางการเงินได้ แต่เมื่อมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นแล้ว ต้องจ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง และไม่มีหนี้ผ่อนคงค้าง ถึงจะช่วยให้การกู้ซื้อคอนโดมีโอกาสผ่านง่ายกว่าเดิม และเป็นการเพิ่มเครดิตให้กับผู้ถือบัตรได้ครับ

มีเงินสำรองไว้ใช้ไม่กระทบกับเงินผ่อน

การมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายยามจำเป็นก็สำคัญ หากในเดือนนั้นมีงานน้อยหรือรายได้น้อย เงินสำรองนี้จะสามารถนำมาใช้ในยามฉุกเฉินได้ โดยควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 5 - 6 เท่าของรายได้โดยประมาณต่อเดือน ซึ่งวิธีออมเงินสำรองแบบนี้จะช่วยให้ธนาคารมั่นใจได้ว่า ผู้กู้จะสามารถแบกรับภาระที่ต้องผ่อนต่อเดือนได้ในอนาคตครับ

ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะชาวฟรีแลนซ์ที่จำเป็นต้องมีวินัยในการออมเงินทุกเดือน และต้องจ่ายภาษีทุกปี มนุษย์เงินเดือนทั่วไปก็สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ในการบริการรายรับรายจ่ายของตัวเองได้ สุดท้ายแล้ว ก็เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าเราจะสามารถแบกรับภาระการผ่อนบ้านหรือคอนโดได้ตลอดรอดฝั่งนั่นเองครับ (อ่านเพิ่มเติม กู้ซื้อคอนโดยังไงให้ง่าย ตามสไตล์มนุษย์ออฟฟิศ)

อ่านเพิ่มเติม