คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย
"ไพรมแอเรียแจ้งวัฒนะ” หวังเชื่อมลงทุนวิภาวดี-ฮับบางซื่อ
ธพส. แก้ลำโควิดทำเศรษฐกิจซึม โหมสร้างอาณาจักร “ศูนย์ราชการ” แสนล้าน บูมทำเล “แจ้งวัฒนะ” สู่ไพรมแอเรีย เปิดประมูลพัฒนาโซน C อีก 2 หมื่นล้าน เชื่อมโลจิสติกส์รอบทิศสู่สถานีกลางบางซื่อ รับถนนตัดใหม่ทะลุโลคอลโรด - ประชาชื่น 4 เลน เสร็จทั้งโครงการปี 2566 ทันเปิดใช้สายสีแดง - สีชมพู
แม้ไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบให้ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงกว่าเดิม อีกมุมหนึ่งทางบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ผู้บริหาร “ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา” ได้ประกาศนโยบายจะลงทุนทันทีอีก 81 ไร่ เพื่อเร่งต่อยอดให้โครงการมีพื้นที่บริการครบวงจร
แลนด์มาร์กใหม่
“ศูนย์ราชการจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ เพราะรัฐลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นศูนย์รวมบริการที่หลากหลายและครบวงจร และ ธพส. ต้องจัดระบบการจราจรให้คล่องตัว และเพิ่มทางเข้า-ออก จึงต้องตัดถนนใหม่ให้โครงข่ายเกิดการเชื่อมโยง”
เช่น ถนนหมายเลข 8 ที่เปิดใช้แล้ว ซึ่งเชื่อมศูนย์ราชการ-ถนนกำแพงเพชร 6 (ส่วนขยายสู่ถนนวิภาวดีรังสิต เปิดให้บริการต้นปี 2563) ถนนหมายเลข 10 แนวเส้นทางจะตัดผ่านการประปานครหลวงกับถนนประชาชื่น ตามแผนจะขยายจาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร และถนนหมายเลข 11 เป็นเส้นทางขยายช่องทางถนนประชาชื่น
นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต มาลงที่ศูนย์ราชการ ณ สถานีหลักสี่ โดยจะเปิดบริการเดือนมกราคม 2564 พร้อมทางเดิน (skywalk) หลักสี่-โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ผนวกไว้ในแผนการลงทุนด้วย ทั้งหมดจะสร้างเสร็จปี 2566 โดยมีโครงข่ายเชื่อมสู่สถานีกลางบางซื่อ (หัวลำโพง 2)
ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ ธพส. เปิดเผยว่า ธพส.ไม่เพียงแต่พัฒนาศูนย์ราชการเท่านั้น แต่เราต้องการปรับโฉมทำเลให้กับถนนแจ้งวัฒนะด้วย เชื่อว่าอนาคตอันใกล้จะมีเอกชนเข้ามาลงทุนในรูปของ community base สร้างเป็นเมืองอัจฉริยะ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ธพส.ได้หารือกับหน่วยงานในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม และกรมการกงสุล เพื่อร่วมกันพัฒนาและต่อยอดให้ศูนย์มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
“เราเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาขอสัมปทานเดินรถเมล์จากหลักสี่-ศูนย์ราชการ ปัจจุบันมีเอกชนให้บริการรถไฟฟ้าขนาดเล็กวิ่งรับ-ส่งอยู่แล้ว พร้อมกับสร้างอาคารที่จอดรถอีก 4,000 คัน และให้เอกชนติดตั้้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วย ล่าสุด บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA แสดงความสนใจมาแล้ว”
เร่งโซน C 2 หมื่นล้าน
ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวว่า ศูนย์ราชการโซน A-B ประสบความสำเร็จไปแล้ว โดยมี 46 หน่วยงานราชการเข้ามาใช้พื้นที่ ทำให้เป็นศูนย์รวมบริการของภาครัฐตามเป้าหมาย
ล่าสุดได้เร่งงานพัฒนาสำคัญ คือ 1. จัดงบประมาณ 20,000 ล้านบาท เร่งสร้างอาคารในโซน C เพื่อรองรับราชการอีก 12 หน่วยงาน จะเริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 2564 จะใช้เวลาสร้าง 18 เดือน
2. ใช้งบฯ 720 ล้านบาท ปรับพื้นที่บางส่วนของอาคารโซน A และ B พร้อมสร้างลานจอดรถรองรับเพิ่มอีก 4,000 คัน (ด้านหลังศาลปกครอง) และเตรียมงบฯ อีก 2,000 ล้านบาท ปรับภูมิทัศน์ด้านหน้า 14 ไร่ สร้างสวนสาธารณะเพิ่ม โดยให้นักภูมิสถาปัตย์ระดับโลก “กชกร วรอาคม” เป็นผู้ออกแบบ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในด้วยการเดิน คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปี 2565
3. สร้างสโมสรให้ข้าราชการและประชาชนได้มีพื้นที่สังสรรค์และออกกำลังกาย
4. เชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และร่วมจัดระบบโลจิสติกส์ เพื่อให้การคมนาคมคล่องตัว คาดว่าจะพัฒนาเต็มพื้นที่แล้วเสร็จในปี 2566
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท. ลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ EEC ผุดมิกซ์ยูส 2 หมื่นล้าน
เปิดพิมพ์เขียวผังเมือง EEC 8 ล้านไร่ ยกระดับพัฒนาประเทศ
ธพส. แก้ลำโควิดทำเศรษฐกิจซึม โหมสร้างอาณาจักร “ศูนย์ราชการ” แสนล้าน บูมทำเล “แจ้งวัฒนะ” สู่ไพรมแอเรีย เปิดประมูลพัฒนาโซน C อีก 2 หมื่นล้าน เชื่อมโลจิสติกส์รอบทิศสู่สถานีกลางบางซื่อ รับถนนตัดใหม่ทะลุโลคอลโรด - ประชาชื่น 4 เลน เสร็จทั้งโครงการปี 2566 ทันเปิดใช้สายสีแดง - สีชมพู
แม้ไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบให้ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงกว่าเดิม อีกมุมหนึ่งทางบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ผู้บริหาร “ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา” ได้ประกาศนโยบายจะลงทุนทันทีอีก 81 ไร่ เพื่อเร่งต่อยอดให้โครงการมีพื้นที่บริการครบวงจร
แลนด์มาร์กใหม่
“ศูนย์ราชการจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ เพราะรัฐลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นศูนย์รวมบริการที่หลากหลายและครบวงจร และ ธพส. ต้องจัดระบบการจราจรให้คล่องตัว และเพิ่มทางเข้า-ออก จึงต้องตัดถนนใหม่ให้โครงข่ายเกิดการเชื่อมโยง”
เช่น ถนนหมายเลข 8 ที่เปิดใช้แล้ว ซึ่งเชื่อมศูนย์ราชการ-ถนนกำแพงเพชร 6 (ส่วนขยายสู่ถนนวิภาวดีรังสิต เปิดให้บริการต้นปี 2563) ถนนหมายเลข 10 แนวเส้นทางจะตัดผ่านการประปานครหลวงกับถนนประชาชื่น ตามแผนจะขยายจาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร และถนนหมายเลข 11 เป็นเส้นทางขยายช่องทางถนนประชาชื่น
นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต มาลงที่ศูนย์ราชการ ณ สถานีหลักสี่ โดยจะเปิดบริการเดือนมกราคม 2564 พร้อมทางเดิน (skywalk) หลักสี่-โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ผนวกไว้ในแผนการลงทุนด้วย ทั้งหมดจะสร้างเสร็จปี 2566 โดยมีโครงข่ายเชื่อมสู่สถานีกลางบางซื่อ (หัวลำโพง 2)
ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ ธพส. เปิดเผยว่า ธพส.ไม่เพียงแต่พัฒนาศูนย์ราชการเท่านั้น แต่เราต้องการปรับโฉมทำเลให้กับถนนแจ้งวัฒนะด้วย เชื่อว่าอนาคตอันใกล้จะมีเอกชนเข้ามาลงทุนในรูปของ community base สร้างเป็นเมืองอัจฉริยะ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ธพส.ได้หารือกับหน่วยงานในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม และกรมการกงสุล เพื่อร่วมกันพัฒนาและต่อยอดให้ศูนย์มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
“เราเปิดกว้างให้เอกชนเข้ามาขอสัมปทานเดินรถเมล์จากหลักสี่-ศูนย์ราชการ ปัจจุบันมีเอกชนให้บริการรถไฟฟ้าขนาดเล็กวิ่งรับ-ส่งอยู่แล้ว พร้อมกับสร้างอาคารที่จอดรถอีก 4,000 คัน และให้เอกชนติดตั้้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วย ล่าสุด บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA แสดงความสนใจมาแล้ว”
เร่งโซน C 2 หมื่นล้าน
ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวว่า ศูนย์ราชการโซน A-B ประสบความสำเร็จไปแล้ว โดยมี 46 หน่วยงานราชการเข้ามาใช้พื้นที่ ทำให้เป็นศูนย์รวมบริการของภาครัฐตามเป้าหมาย
ล่าสุดได้เร่งงานพัฒนาสำคัญ คือ 1. จัดงบประมาณ 20,000 ล้านบาท เร่งสร้างอาคารในโซน C เพื่อรองรับราชการอีก 12 หน่วยงาน จะเริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 2564 จะใช้เวลาสร้าง 18 เดือน
2. ใช้งบฯ 720 ล้านบาท ปรับพื้นที่บางส่วนของอาคารโซน A และ B พร้อมสร้างลานจอดรถรองรับเพิ่มอีก 4,000 คัน (ด้านหลังศาลปกครอง) และเตรียมงบฯ อีก 2,000 ล้านบาท ปรับภูมิทัศน์ด้านหน้า 14 ไร่ สร้างสวนสาธารณะเพิ่ม โดยให้นักภูมิสถาปัตย์ระดับโลก “กชกร วรอาคม” เป็นผู้ออกแบบ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในด้วยการเดิน คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปี 2565
3. สร้างสโมสรให้ข้าราชการและประชาชนได้มีพื้นที่สังสรรค์และออกกำลังกาย
4. เชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และร่วมจัดระบบโลจิสติกส์ เพื่อให้การคมนาคมคล่องตัว คาดว่าจะพัฒนาเต็มพื้นที่แล้วเสร็จในปี 2566
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท. ลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ EEC ผุดมิกซ์ยูส 2 หมื่นล้าน
เปิดพิมพ์เขียวผังเมือง EEC 8 ล้านไร่ ยกระดับพัฒนาประเทศ
อ่านเพิ่มเติม