คอนโด Pet Friendly ใกล้รถไฟฟ้า งบไม่เกิน 5 ล้านบาท เลี้ยงหมาแมวได้ มีอะไรต้องรู้บ้าง?

ในยุคที่ "สัตว์เลี้ยง" ไม่ใช่แค่สัตว์อีกต่อไป แต่กลายเป็น “ลูก” ของใครหลายคน เทรนด์ Pet Humanization หรือการมองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวกำลังมาแรงอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen X และ Gen Z ที่หันมาเลี้ยงสัตว์แทนการมีลูก หรือเลี้ยงเป็นเพื่อนคลายเหงา ส่งผลให้ตลาด Pet Friendly Condo หรือคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้ เติบโตแบบก้าวกระโดด

กระแส Pet Friendly โตแรง! สะท้อนจากพฤติกรรมผู้บริโภค

ข้อมูลจาก SCB EIC ระบุว่า ตลาดที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเติบโตเฉลี่ยถึง 17% ต่อปี ระหว่างปี 2015–2023 ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหารสัตว์ บริการดูแล ไปจนถึงกลุ่ม Pet Care และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตอนนี้หลายคนเลือกซื้อที่อยู่อาศัยจากความต้องการของ “น้องหมาน้องแมว” เลยทีเดียว!

เลือกคอนโด Pet Friendly ต้องดูอะไรบ้าง?

แม้จะมีคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้มากขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบข้อกำหนดให้ชัดเจน เช่น:

✅ จำกัดขนาดสัตว์เลี้ยง: ส่วนมากอนุญาตเฉพาะขนาดเล็ก-กลาง (น้ำหนักไม่เกิน 15–20 กก.)
✅ จำนวนสัตว์เลี้ยง: โดยทั่วไปจะจำกัดที่ 1–2 ตัว ต่อยูนิต
✅ เงื่อนไขการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง: ต้องใส่สายจูง ใช้กระเป๋า/รถเข็น และห้ามปล่อยวิ่งอิสระ
✅ มีค่าธรรมเนียมสัตว์เลี้ยง: เช่น ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงรายปี
✅ ประเภทสัตว์ต้องห้าม: เช่น งู ตัวเงินตัวทอง หรือสัตว์สายพันธุ์อันตราย เช่น พิตบูล ร็อตไวเลอร์ ฯลฯ

หมายเหตุ: ตามกฎหมายสาธารณสุขกำหนดว่า หากยูนิตมีพื้นที่ 20–80 ตร.ม. จะสามารถเลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว และต้องฝังไมโครชิป/ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานเขตด้วย

แนะนำ 4 คอนโด Pet Friendly ใหม่ ใกล้รถไฟฟ้า งบไม่เกิน 5 ล้านบาท

1. LIFE JJ INTERCHANGE – เริ่มต้น 3.49 ล้านบาท

ทำเล: ซอยอินทามระ 15 (ใกล้ BTS/MRT จตุจักร)
เชื่อมต่อ 3 ย่านสำคัญ: จตุจักร – อารีย์ – บางซื่อ
เลี้ยงสัตว์ได้ (รายละเอียดรอประกาศเพิ่มเติมจากโครงการ)

2. THE BASE RATCHADA 19 – เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท

คอนโดใหม่ใจกลางรัชดา ใกล้ MRT รัชดาภิเษก
เชื่อมต่อถนนหลักได้สะดวกทั้ง ลาดพร้าว, รังสิต และ พระราม 9

ที่ตั้งโครงการ: ซอยวิภาวดีรังสิต 16
เนื้อที่โครงการ: 5 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียม Low Rise ที่ออกแบบเพื่อความเป็นส่วนตัว
- จำนวน 3 อาคาร สูง 8 ชั้น
- พร้อมคลับเฮ้าส์สูง 3 ชั้น รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างครบครัน

จำนวนยูนิตรวม: 614 ยูนิต
- อาคาร A: 208 ยูนิต
- อาคาร B (Pet-Friendly): 203 ยูนิต
- อาคาร C: 203 ยูนิต
ลิฟต์โดยสาร: อาคารละ 2 ตัว
ที่จอดรถ: 286 คัน (คิดเป็นประมาณ 47% ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
สถานะโครงการ: ก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2026

ลักษณะห้องชุด

1 Bedroom (S): 23.00 – 24.75 ตร.ม.
1 Bedroom (M): 25.00 – 27.25 ตร.ม.
1 Bedroom (L): 30.25 – 33.00 ตร.ม.
1 Bedroom Plus: 34.00 – 35.25 ตร.ม.

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

ค่ากองทุน: 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง:
- ปีที่ 1: 53 บาท/ตร.ม./เดือน
- ปีที่ 2: 56 บาท/ตร.ม./เดือน
- ปีที่ 3: 59 บาท/ตร.ม./เดือน

นโยบายสำหรับสัตว์เลี้ยง (เฉพาะอาคาร B)

ค่าลงทะเบียนสัตว์เลี้ยง: 3,000 บาท

ค่าธรรมเนียมสัตว์เลี้ยงรายปี: 3,600 บาท

1 Bedroom: เลี้ยงสัตว์ได้ 1 ตัว (น้ำหนักไม่เกิน 15 กก. และสูงไม่เกิน 15 นิ้ว)

1 Bedroom Plus: เลี้ยงสัตว์ได้ 2 ตัว (น้ำหนักไม่เกิน 15 กก. และสูงไม่เกิน 15 นิ้ว)

3. NUE EPIC ASOK – RAMA 9 – เริ่มต้น 2.69 ล้านบาท

รายละเอียดโครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9

ที่ตั้งโครงการ : ถนนอโศก-ดินแดง

เนื้อที่โครงการ : 15-0-19.6 ไร่

ลักษณะโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise ดีไซน์ใหม่รองรับการใช้ชีวิตของคนเมือง มี 4 อาคาร สูง 32 – 47 ชั้น พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน 

อาคาร A – สูง 47 ชั้น

อาคาร B – สูง 47 ชั้น

อาคาร C – สูง 34 ชั้น

อาคาร D – สูง 32 ชั้น (รองรับสัตว์เลี้ยง - Pet-Friendly Building)

จำนวนยูนิตรวม : 3,107 ยูนิต, ร้านค้า: 9 ยูนิต

ลิฟต์โดยสาร : อาคาร A – 6 ตัว, อาคาร B – 6 ตัว, อาคาร C – 5 ตัว, อาคาร D – 3 ตัว

พื้นที่จอดรถ : 1,416 คัน คิดเป็นประมาณ 45% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

สถานะโครงการ : สร้างเสร็จอยู่ไตรมาส 4, 2028

ลักษณะห้องชุด :

1 Bedroom (M) พื้นที่ใช้สอย 26.00 – 26.50 ตร.ม.

1 Bedroom (L) พื้นที่ใช้สอย 30.00 – 30.50 ตร.ม.

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35.50 – 40.00 ตร.ม.

2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 45.50 – 53.90 ตร.ม.

2 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 76.00 ตร.ม.

3 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 70.20 ตร.ม.

3 Bedroom 3 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 83.00 – 100.80 ตร.ม.

ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม.

ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตร.ม./เดือน

Pet Friendly อาคาร D มีค่าลงทะเบียนประมาณ 2,000 – 3,000 บาท/ตัว/ปี

4. MARU CHULA – เริ่มต้น 3.95 ล้านบาท

รายละเอียดโครงการ MARU CHULA

ที่ตั้งโครงการ : ถนนเจริญเมือง

เนื้อที่โครงการ : 1-1-7.40  ไร่

ลักษณะโครงการ : คอนโดมิเนียม High rise ใจกลาเมือง สูง 27 ชั้น จำนวน 1 อาคาร

จำนวนยูนิต : 219 ยูนิต 

ลิฟท์ : ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 1 อาคาร

พื้นที่จอดรถ : 107 คัน (Conventional 71 คัน + Auto Parking 36 คัน) คิดเป็นประมาณ 49% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

สถานะโครงการ : สร้างเสร็จอยู่ไตรมาส 4, 2027

ลักษณะห้องชุด :

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 31 – 48 ตร.ม.

1 Bedroom (Duplex) พื้นที่ใช้สอย 47 ตร.ม.

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 31 – 46 ตร.ม.

2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 47 – 62 ตร.ม.

ค่าส่วนกลาง : 70 บาท/ตร.ม./เดือน

• สามารถเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็ก-กลาง จำกัดน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม

• 1 ยูนิต สามารถเลี้ยงได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น

• การพาสัตว์เลี้ยงออกมาเดินนอกห้องพัก จำเป็นต้องใช้สายจูง/กระเป๋า/รถเข็นเท่านั้น

• ต้องพกอุปกรณ์ทำความสะอาดเวลาพาสัตว์เลี้ยงมาใช้ส่วนกลาง (ทำความสะอาดทันที)

• ส่วนกลางที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงมาใช้งานได้ จะเป็นบริเวณสวนด้านหน้าโครงการเท่านั้น

ข้อกำหนดการเลี้ยงสุนัขและแมวในกรุงเทพฯ

ข้อกำหนดการเลี้ยงสัตว์ในที่พักอาศัย – ตามกฎหมายสาธารณสุข

อ้างอิงตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 (มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การสาธารณสุข ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2560) ประกอบกับมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ได้กำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงที่สามารถเลี้ยงได้ในที่พักอาศัยแต่ละประเภท ดังนี้:

จำนวนสัตว์เลี้ยงที่กำหนด

อาคารชุดหรือห้องเช่า

พื้นที่ 20–80 ตร.ม.: เลี้ยงได้ ไม่เกิน 1 ตัว

หากเกิน 80 ตร.ม.: เลี้ยงได้ ไม่เกิน 2 ตัว

เนื้อที่ ไม่เกิน 20 ตร.วา: เลี้ยงได้ ไม่เกิน 2 ตัว

เนื้อที่ 20–50 ตร.วา: เลี้ยงได้ ไม่เกิน 3 ตัว

เนื้อที่ 50–100 ตร.วา: เลี้ยงได้ ไม่เกิน 4 ตัว

เนื้อที่ เกิน 100 ตร.วา: เลี้ยงได้ ไม่เกิน 6 ตัว

กำหนดสุนัขควบคุมพิเศษ

ข้อกำหนดสุนัขควบคุมพิเศษ (Dangerous Breeds) เมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยงจะต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก และใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และผู้จูงต้องจับสายห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 เซนติเมตร ตลอดเวลาที่อยู่นอกสถานที่เลี้ยง

• พิตบูลเทอเรีย

• บูลเทอเรีย

• สเตฟฟอร์ดเชอร์ บูลเทอเรีย

• ร็อตไวเลอร์

• ฟิล่า บราซิเลียโร

• รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้าย หรือพยายามทำร้ายคน

เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องดำเนินการระบุตัวตนของสัตว์เลี้ยงอย่างถาวรโดยการฝังไมโครชิป ซึ่งต้องดำเนินการโดยสัตวแพทย์ และต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กรุงเทพมหานครกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ หลังจากฝังไมโครชิปแล้ว เจ้าของต้องนำใบรับรองไปแจ้งขึ้นทะเบียนที่สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย หรือสำนักงานเขตที่รับผิดชอบ โดยจะมีผลบังคับใช้วันถัดไปหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 360 วัน

สรุป

หากคุณกำลังมองหา คอนโดเลี้ยงสัตว์ใกล้รถไฟฟ้า ในงบไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อลงทุนปล่อยเช่าในกลุ่มคนรักสัตว์ สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อกำหนดของโครงการให้ชัดเจน ทั้งเรื่องขนาดสัตว์เลี้ยง จำนวนที่อนุญาต ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดให้ใช้งานได้จริง

และหากคุณต้องการความมั่นใจในการเลือกซื้อโครงการที่ ตรงใจคน – ถูกใจสัตว์เลี้ยง BC นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร พร้อมให้คำแนะนำทุกขั้นตอน ตั้งแต่ค้นหาโครงการ Pet Friendly ที่ใช่ เจรจาราคา ไปจนถึงบริการหลังการขายอย่างใกล้ชิด

🐾 ไม่ว่าจะมีน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงขนฟูแค่ไหน เราก็มีคำตอบให้คุณเสมอ เลือกคอนโดให้ “ครบ” – เลือกกับ BC