อสังหาฯ ขานรับ “ปลดล็อก LTV”

article image
20 ม.ค. 2563 แบงก์ชาติตั้งโต๊ะแถลงข่าวปลดล็อกเกณฑ์ LTV-loan to value มาตรการบังคับเงินดาวน์แพง 20% ในการขอสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 หลังจากมีการบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2562

LTV.jpg

โดยมาตรการที่ปลดล็อก ได้แก่ การซื้อบ้านหลังแรก เดิมขอสินเชื่อได้ 90-95% มาตรการปลดล็อกเพิ่มเป็นกู้ได้ 110%, เงินกู้สัญญาที่ 2 ลดเงินดาวน์จาก 20% เหลือ 10% ควบคู่ลดเวลาผ่อนสัญญาแรกจาก 3 ปี เหลือ 2 ปีที่จะ “ไม่นับเป็นสัญญาแรก” ส่วนกลุ่มบ้านราคาเกิน 10 ล้านมีส้มหล่นด้วย เพราะแบงก์ชาติลดเงินดาวน์เหลือ 10% จากเดิมบังคับ 20% มาตั้งแต่ปี 2540

LTV-2.jpg

โอภาส ศรีพยัคฆ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

การผ่อนปรนรอบนี้ ดูบ้านหลังที่ 1 ก่อนโดยเฉพาะในกลุ่ม affordable กลุ่มคนที่เงินไม่เยอะ การปล่อยกู้ 110% ช่วยได้เยอะ เพราะว่าจริง ๆ แล้วต้องบอกว่า คนที่ทำงานอยู่ตอนนี้เขาก็มีที่อยู่อาศัย มีภาระอยู่แล้ว จะเป็นเช่า เป็นอะไรก็แล้วแต่

การที่ไม่ต้องมีเงินดาวน์ตรงนี้มันก็ช่วยได้เยอะเลย เขาไม่ได้มีเงินก้อนอะไรตรงนี้ แล้วการกู้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภค จริง ๆ แล้วเงินก้อน 15-20% ที่ต้องเตรียมเป็นค่าใช้จ่าย แบ่งมาจ่ายตอนโอน 5% ซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งอีก 10% ของค่าห้อง เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วยังต้องหาเงินอีก 15% พูดง่าย ๆ คือคนซื้อบ้านก็ต้องมีเงินเก็บบ้าง แต่ถ้าไม่มี มาตรการตรงนี้ก็ช่วยได้เยอะ

ส่วนบ้านหลังที่ 2 สำหรับคนที่พอมีฐานะ มีความจำเป็นที่ต้องมีบ้านหลังที่ 2 ดาวน์ 10% ก็ flexible มันก็เป็นปกติอยู่แล้ว ฉะนั้นภาพโดยรวมก็ดี โดยเฉพาะแบงก์น่าจะผ่อนคลายมากขึ้น อีกเรื่องคือยอดกู้ไม่ผ่าน (rejection rate) น่าจะลดลง เพราะปัจจัยที่กู้ไม่ผ่านตัวหนึ่งก็มาจาก LTV ตรงนี้ด้วย

ส่วนเรื่องให้กู้ได้ 110% แบงก์ชาติไม่กลัวปัญหาหนี้ครัวเรือนแล้วเหรอ

ผมว่าเขาน่าจะเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วในภาวะอย่างนี้คนที่ซื้อจริงไม่น่ากลัวหรอกหนี้ครัวเรือน ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักอาศัย ถ้าไม่มีบ้านก็ไม่มีที่จะอยู่

LTV-3.jpg

ดร.วิชัย วิรัตกพันธุ์
รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส.

ในทรรศนะท่ากับปลดล็อก LTV ไปเลย แล้วก็ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจกับกำลังซื้อ จุดหนึ่งผมว่าเงื่อนไขเรื่องการปล่อยหลัง 2 หลัง 3 มันก็ยังไม่แรงสำหรับเงื่อนไขแรกที่กู้ได้ 100% แล้วบวกไปอีก 10% เดิมเขาต้องการเงินบางส่วนไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ ไปซื้อของเข้าบ้าน แต่อันนี้เขาไม่สามารถที่จะซื้อได้

อีกกลุ่มที่ถูก reject เช่น มีดาวน์ 10% แล้ว หรือไม่มีดาวน์เลย พอถึงวันโอนกรรมสิทธิ์เจอเงื่อนไข LTV เขาหาเงินดาวน์ไม่ทัน ก็จะมีการคืนหลังที่จอง พวกนี้จะถูกปลดล็อก ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่จะกลับเข้ามาในตลาด ทำให้สต๊อกในมือที่ขายยาก การคืนห้อง คืนบ้าน เลิกผ่อนดาวน์ แล้วก็ทิ้งดาวน์ จะน้อยลง

ทั้งนี้ทั้งนั้น กฎเกณฑ์ใหม่ LTV รอบนี้ให้กู้ได้ถึง 110% ถามว่า กระทบต่อยอดปฏิเสธสินเชื่อมากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องคุณภาพของผู้กู้ เพราะอย่างไรก็ตามคุณภาพสินเชื่อ ก็เป็นเรื่องที่แบงก์ concern อยู่

LTV-4.jpg

พีระพงศ์ จรูญเอก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

การผ่อนคลาย LTV รอบนี้เป็นบวก มองว่าแบงก์ชาติปรับใหญ่ การใช้มาตรการ LTV ยังเกาไม่ถูกที่คัน การผ่อนปรนแบบนี้ถือว่าให้ ตามข้อเรียกร้องเกือบหมดยกเว้นหลังที่ 3 กับหลังที่ 2 นิดหน่อย

รอบนี้มองว่าเมเจอร์เชนจ์ เหลังจากครั้งที่แล้ว LTV บังคับเงินดาวน์ 20% กลายเป็น 1 ปีที่หายไปของภาคอสังหาฯ แบงก์ชาติกลัวหนี้เสียจากการเก็งกำไร แต่แก้ไม่ถูกจุด หนี้เสียเพิ่ม 1-2% ที่กลัวกัน แต่อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย หายไป 30%

ข้อแนะนำผู้บริโภค ที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องปัจจัย 4 อะไรที่กังวล ตอนนี้แบงก์ชาติคลายกังวล ปลดล็อกให้แล้ว ดอกเบี้ยแบงก์ถูก ไม่ซื้อปีนี้ก็ไม่รู้จะซื้อปีไหน ดอกเบี้ยบ้านเหลือ 2.7-2.8% เองมั้ง ถูกยาว ๆ ด้วย เพราะนโยบายเรื่องดอกเบี้ยยังใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำอยู่

LTV-5.jpg

อิสระ บุญยัง
นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร

สาระสำคัญอยู่ที่ 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 ก็คือผ่อนคลายสำหรับสัญญาแรกที่กู้ได้ 100% เทียบกับของเดิม LTV บ้านจัดสรรดาวน์ 5% คอนโดฯ ดาวน์ 10% เป็นหลักเกณฑ์ที่ยึดถือปฏิบัติมาอยู่แล้ว

การแก้ไขบ้านต่ำกว่า 10 ล้านก็คือกู้ได้ 100% แล้วก็กู้พวกเฟอร์นิเจอร์ ได้อีก 10% รวมเป็น 110% ก่อนหน้านี้ช่วงที่เข้ม ๆ ขอกู้เพิ่มไม่ได้นะ ตรงจุดช่วย 2 เรื่อง 1.ผ่อนคลายเรื่องจำนวนเงินกู้ 2.ผ่อนคลายภาระดอกเบี้ยของอุปกรณ์หรือของที่ต้องใช้ภายในบ้าน เอาบัตรเครดิตไปซื้อก็ดอกเบี้ยแพงกว่านี้

สัญญาที่ 2 ก็แค่ว่าลดจากระยะเวลาที่อยู่ระหว่างผ่อนสัญญาแรก 3 ปี เหลือ 2 ปี
ส่วนเรื่องที่ 3 ก็ไปผ่อนคลายบ้านราคา 10 ล้านขึ้นไปเท่านั้นเอง

คำถามคือปลดล็อก LTV ครั้งนี้ช่วยในภาพใหญ่อะไรได้ไหม เรื่องแรก เมื่อประกาศหลักเกณฑ์มาตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 ผมคิดว่าทุกฝ่ายก็เกิดการแพนิก-panic ผู้ซื้อ ผู้ประกอบการ แบงก์เองก็แพนิก

การประกาศหลักเกณฑ์ใหม่อย่างน้อยก็ลดความตื่นตระหนก แล้วก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับคนที่มีความพร้อมที่จะซื้อ แล้วก็ผ่อนคลายสำหรับแบงก์พาณิชย์ที่มีความวิตกกังวลว่าปล่อยสินเชื่อไปแบงก์ชาติจะมาตรวจสอบอีก อันนี้ก็ลดความวิตกกังวลของทุกฝ่าย

ถามว่า จะช่วยอะไรได้สักแค่ไหน ก็ยังตอบไม่ได้เต็มปากเต็มคำหรอกว่า การคาดการณ์ปีนี้จะโตขึ้นไปถึง 10% หรือเปล่า (เดิมประเมินโต 5%) ต้องดูอีกสักระยะหนึ่ง เพราะภาพรวมของตลาด ภาพรวมของเศรษฐกิจก็ยังกดความเชื่อมั่นอยู่

LTV-6.jpg

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพฤกษา-พรีเมี่ยม
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

(มาตรการปลดล็อก)…คิดว่ายังไม่ใช่ที่เอกชนอยากได้ เพราะสัญญาที่ 2 ต้องรอให้สัญญาแรกผ่อนไป 2 ปีก่อนอยู่ดี ทำให้พวกที่กู้ร่วมทั้งหลายกับพวกที่มีบ้านหลังที่ 2 อยู่ชานเมืองไม่ได้แก้ปัญหาทั้ง 100%

แต่ก็ถือว่าแบงก์ชาติก็เริ่มฟังมากขึ้น แต่ว่าจะให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นได้บ้าง แต่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจคงยาก

สิ่งที่อยากให้แก้ปัญหา อย่างที่เรียนว่า LTV ถ้าไม่เลื่อนบังคับใช้ไป ก็ให้ไปบังคับใช้กับสัญญาที่ 3 เพราะสัญญาที่ 2 ก็ยังต้องดาวน์อยู่ 10%

LTV บังคับใช้ต้นไตรมาส 2/62 แต่มีผลทำให้ผลประกอบการทั้งปี ข้อมูลเป็นทางการตัวเลขยังไม่เห็น แต่คาดการณ์ก็คงประมาณ 20% ไม่น้อยกว่านี้แน่นอน

นานาทรรศนะ อสังหาขานรับ “ปลดล็อก LTV”

ตอนปลายปี 2562 ประเมินว่าอสังหาฯ ปีนี้ไม่โตอยู่แล้ว ผมขอ zero growth อยู่แล้ว แค่ประคองตัวได้ก็โอเคแล้ว

ทางแบงก์ชาติยังมองว่ามีสัญญาที่ 2 ก็จะมีเรื่องสัญญาณเก็งกำไร เพราะให้เหตุผลในข้อมูลว่า แป๊บเดียวก็กู้สัญญาที่ 2 แล้ว แต่จริง ๆ สัญญาณของการเก็งกำไรมันไม่มีอยู่แล้วในภาวะแบบนี้

จุดตายที่แบงก์ชาติออกมาปลดล็อก LTV ก็คือ ดาวน์เพย์เมนต์นี่แหละ ต้องยอมรับว่า พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่จำเป็นต้องมีบ้าน 2 หลัง อย่าไปคิดว่ามันเป็นการเก็งกำไร ซึ่งการเก็งกำไร search for yield มันไม่เห็นแล้ว

ถ้าจะให้ดีต้องปลดล็อกสัญญาที่ 2 เท่านั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมผลักดันให้คนมีตังค์ได้ใช้เงินในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ผมว่าปีนี้ทั้งปี ถ้าสถานการณ์ตัวเลขไม่ดี ก็คิดว่าแบงก์ชาติน่าจะกลับไปดูสิ่งที่เราร้องขอ 1.ก็คือเลื่อนออกไป 2.คือบังคับ LTV 20% เป็นสัญญาที่ 3 ขอสองเรื่องง่าย ๆ เอง

ประชาชาติธุรกิจ

ติดตามอัพเดทข่าวสารในวงการอสังหาฯ ทั้งหมดได้ที่
https://www.bkkcitismart.com/ข่าว

#news #BC #BangkokCitiSmart

Author

Bangkok CitiSmart

A trustworthy real estate agent Selling a property involves more than just posting an announcement. Bangkok Citismart is a professional agency that offers full-service support and is trusted to handle your demand