.jpg)
ยังไม่ชัดเจน ซี.พี. ผู้รับสัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) จะเข้าพื้นที่ช่วง สถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตลิงก์เดิมเลยหรือไม่
เพราะต้องควักเงิน 10,671 ล้านบาท จ่ายค่าใช้สิทธิเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ ระยะเวลา 50 ปี ถึงจะเข้าไปดำเนินการปรับปรุงระบบให้รองรับกับรถไฟความเร็วสูง ปรับแผนการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ใหม่ รวมถึงการยกเครื่องการบริการ อาจจะต้องใช้เงินเฉียดหมื่นล้าน
รอดูทรัพย์สินที่จะรับมอบมาจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไม่ว่าจะเป็นรถ 9 ขบวน อะไหล่อุปกรณ์ต่าง ๆ และพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานี จะสมบูรณ์แค่ไหน ขณะที่ในทีโออาร์กำหนดสามารถชำระได้ใน 2 ปี อยู่ที่การตัดสินใจของกลุ่ม ซี.พี.จะจ่ายเลยหรือรอเวลาไปอีก 1-2 ปี
นอกจากจ่ายค่าเดินรถ 10,671 ล้านบาท จะต้องลงทุนอีกส่วนหนึ่งเพื่อปรับปรุงระบบเครื่องกลและการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์เดิมให้รองรับกับระบบรถไฟความเร็วสูง เพราะต้องใช้โครงสร้างร่วมกัน เช่น มีบางสถานีจะต้องตัดพื้นที่สถานีออก 10 เซนติเมตร และอาจจะต้องขยายชานชาลาสถานีที่มักกะสันให้รับกับขบวนรถที่นำมาวิ่ง ซึ่งจะต้องดำเนินการนอกเวลาให้บริการในช่วงเวลา 24.00-05.00 น.
รวมไปถึงซื้อรถขบวนใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพให้รองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะสถานีมักกะสันที่จะเป็นประตูสู่พื้นที่อีอีซี
รถเดิมทั้ง 9 ขบวนมีอายุการใช้งาน 30 ปี ต้องซ่อมบำรุงใหญ่ในปี 2565 และจะมีซ่อมใหญ่ในปีที่ 15 ปัจจุบันผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 90,000 เที่ยวคนต่อวัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 1 ปีกว่า ๆ เท่านั้น
ยังเดาใจ ซี.พี. ไม่ออกว่าจะยอมทุ่มเงิน 10,671 ล้านบาท เพื่อเข้าบริหารการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์เดิม เพื่อเก็บรายได้ค่าโดยสารที่ตอนนี้เฉลี่ยวันละ 3 ล้านบาท ก่อนทุ่มเงินอีกก้อนใหญ่ เพื่อยกเครื่องการเดินรถทั้งพวง แลกกับสัมปทานเดินรถ 50 ปี
ประชาชาติธุรกิจ
ติดตามอัพเดทข่าวสารในวงการอสังหาฯ ทั้งหมดได้ที่
https://www.bkkcitismart.com/ข่าว
#news #BC #BangkokCitiSmart
เพราะต้องควักเงิน 10,671 ล้านบาท จ่ายค่าใช้สิทธิเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ ระยะเวลา 50 ปี ถึงจะเข้าไปดำเนินการปรับปรุงระบบให้รองรับกับรถไฟความเร็วสูง ปรับแผนการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ใหม่ รวมถึงการยกเครื่องการบริการ อาจจะต้องใช้เงินเฉียดหมื่นล้าน
รอดูทรัพย์สินที่จะรับมอบมาจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ไม่ว่าจะเป็นรถ 9 ขบวน อะไหล่อุปกรณ์ต่าง ๆ และพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานี จะสมบูรณ์แค่ไหน ขณะที่ในทีโออาร์กำหนดสามารถชำระได้ใน 2 ปี อยู่ที่การตัดสินใจของกลุ่ม ซี.พี.จะจ่ายเลยหรือรอเวลาไปอีก 1-2 ปี
นอกจากจ่ายค่าเดินรถ 10,671 ล้านบาท จะต้องลงทุนอีกส่วนหนึ่งเพื่อปรับปรุงระบบเครื่องกลและการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์เดิมให้รองรับกับระบบรถไฟความเร็วสูง เพราะต้องใช้โครงสร้างร่วมกัน เช่น มีบางสถานีจะต้องตัดพื้นที่สถานีออก 10 เซนติเมตร และอาจจะต้องขยายชานชาลาสถานีที่มักกะสันให้รับกับขบวนรถที่นำมาวิ่ง ซึ่งจะต้องดำเนินการนอกเวลาให้บริการในช่วงเวลา 24.00-05.00 น.
รวมไปถึงซื้อรถขบวนใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพให้รองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะสถานีมักกะสันที่จะเป็นประตูสู่พื้นที่อีอีซี
รถเดิมทั้ง 9 ขบวนมีอายุการใช้งาน 30 ปี ต้องซ่อมบำรุงใหญ่ในปี 2565 และจะมีซ่อมใหญ่ในปีที่ 15 ปัจจุบันผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 90,000 เที่ยวคนต่อวัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 1 ปีกว่า ๆ เท่านั้น
ยังเดาใจ ซี.พี. ไม่ออกว่าจะยอมทุ่มเงิน 10,671 ล้านบาท เพื่อเข้าบริหารการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์เดิม เพื่อเก็บรายได้ค่าโดยสารที่ตอนนี้เฉลี่ยวันละ 3 ล้านบาท ก่อนทุ่มเงินอีกก้อนใหญ่ เพื่อยกเครื่องการเดินรถทั้งพวง แลกกับสัมปทานเดินรถ 50 ปี
ประชาชาติธุรกิจ
ติดตามอัพเดทข่าวสารในวงการอสังหาฯ ทั้งหมดได้ที่
https://www.bkkcitismart.com/ข่าว
#news #BC #BangkokCitiSmart
