บทความ

วันที่ 24 ตุลาคม 2560

เลือกซื้อคอนโดแบบมนุษย์เงินเดือน ไว้อยู่เอง ลงทุนได้


FIRST JOBBER ก็ซื้อคอนโดได้

ซื้อคอนโด

มนุษย์เงินเดือนแรกเริ่มที่อยู่ในช่วงวัยไม่เกิน 35 หรือกลุ่ม First Jobber เป็นวัยที่เหมาะกับการลงทุน สร้างความมั่นคง เพื่ออนาคต และเชื่อว่าการซื้อคอนโดเป็นของตัวเองคือหนึ่งในความคิดของมนุษย์เงินเดือนในปัจจุบันนี้


มนุษย์เงินเดือนหลายคนจึงมองหาคอนโดราคาดีๆ เพื่ออยู่อาศัย และไว้ลงทุน แต่มักมีข้อจำกัดคือ ยังไม่มีเงินทุนมากพอ เนื่องจากใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อยไปกับสิ่งอื่น ไม่ได้วางแผนการเงินเผื่ออนาคต หรือมองหาคอนโดที่มีราคาเกินตัวจนเกินไป ติดค่านิยมที่หรูหรา และขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนี้


ดังนั้นการซื้อคอนโดของมนุษย์เงินเดือนทั้งทีจะต้องวางแผนเตรียมความพร้อมด้านการเงินเป็นอย่างดี รู้จักเลือกให้เหมาะสมกับฐานเงินเดือน ไม่เกินความสามารถในการผ่อนชำระ ที่สำคัญต้องเลือกคอนโดบนทำเลที่ดีและคุ้มค่าสมราคา อาจจะปรึกษา AGENT ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเพื่อหาโครงการที่ดีที่สุดให้ก็ได้ หรือศึกษาข้อมูลเบื้องต้นไปก่อน อย่างเช่นในบทความนี้ที่จะแนะนำการเลือกคอนโดแบบมนุษย์เงินเดือนครับ



เตรียมความพร้อมการเงินกันก่อน


ก่อนอื่นเลยเราควรตั้งงบที่เราสามารถซื้อได้ ไม่ควรเกินความสามารถของเรา หากเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องกู้ธนาคาร ควรประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ เพื่อดูว่าเราได้วงเงินกู้เท่าไหร่ โดยคำนวณจากรายได้ต่อเดือน อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และระยะเวลากู้ รวมถึงหลักค้ำประกัน ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา และหนี้สินต่างๆ ที่มีอยู่ประกอบด้วย ซึ่งส่วนใหญ่คอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือคอนโดระดับ Standard จะเป็นราคาที่ถูกใจมนุษย์เงินเดือนที่สุดครับ เพราะเป็นราคาที่จับต้องได้จริง และไม่เกินกำลังผ่อนชำระแน่นอน (รายได้โดยประมาณ ไม่เกิน 50,000 บาท)


คำนวณสินเชื่อเบื้องต้น : https://www.bkkcitismart.com/เครื่องมือคำนวณสินเชื่อ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : เงินเดือนเท่านี้ กู้เงินซื้อคอนโดได้เท่าไหร่



ซื้อคอนโด

เลือกซื้อคอนโดแบบมนุษย์เงินเดือน “ไว้อยู่เอง”


มนุษย์เงินเดือน First Jobber หรือคนในวัยทำงานนั้น หลายคนทำงานไกลบ้าน พักอยู่หอพักและเสียค่าเช่าทุกเดือน หากวางแผนการเงินดีๆ มนุษย์เงินเดือนก็สามารถนำจำนวนเงินที่จ่ายค่าเช่ามาผ่อนคอนโดได้เลย หลายคนจึงเลือกที่จะนำเงินส่วนนี้มาซื้อคอนโดครับ รวมถึงการมีที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งงานแบบนี้ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวในส่วนของการเดินทาง และในอนาคตหากไม่อยู่อาศัยเองก็สามารถนำมาลงทุนปล่อยเช่าได้ Bangkok citismart จึงนำ Checklist นี้มาให้ ว่ามนุษย์เงินเดือนแบบเราควรเลือกคอนโดไว้อยู่อาศัยเองอย่างไร



Checklist 1 : ราคาไม่สูง และคุ้มค่าที่สุด


ถ้าเลือกคอนโดระดับ Hi-end อาจจะเกินตัวไปสำหรับมนุษย์เงินเดือน หากเป็นคอนโดระดับ Standard จะตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนครับ โดยเริ่มพิจารณาจากทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกของคอนโดนั้นว่าเหมาะกับคุ้มค่าสมราคาหรือไม่ คอนโดที่อยู่ในเมืองและใกล้แหล่งงานมากๆ อาจมีราคาสูง แต่ถ้าเลือกโครงการห่างออกมาจากแหล่งงานเล็กน้อยแต่ยังสามารถเดินทางได้สะดวกอยู่ จะเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนมากกว่าครับ เนื่องจากมีราคาที่ถูกลง และในอนาคตก็มีแนวโน้มความเจริญขยับขยายมาเช่นกัน การตกแต่งเองก็มีผลกับราคา หากตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมี่ยม หรูหรา ก็จะมีราคาสูงกว่าอาคารทั่วไปในละแวกเดียวกัน ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนควรเลือกโครงการที่มีการตกแต่งที่สวยงาม ทันสมัย แต่ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงจนเกินไป


Checklist 2 : ทำเลถูกใจ ห้องน่าอยู่


ในจุดนี้เรียกว่าเป็นการเลือกคอนโดตามปัจจัยที่เราต้องการก่อน แน่นอนว่าหลายคนมองเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้ง ระยะทาง การเดินทาง ที่ตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือน คือ ใกล้แหล่งงาน แต่อาจจะเป็นทำเลที่ห่างออกมาหน่อย แต่ยังสามารถร่นระยะเวลาในการเดินทางได้ ราคาจะได้ไม่สูงมาก นอกจากนั้นควรถึงคำนึงขนาดของห้องที่เหมาะกับกับจำนวนผู้อยู่อาศัย รวมถึงตำแหน่งของห้องทิศทางลม-แดด วิวที่เราต้องการ บรรยากาศภายในห้อง โปร่งโล่ง รู้สึกสบายเวลาอยู่อาศัย


ในปัจจุบันขนาด 1 bedroom plus จึงเป็นที่นิยม คือ มี 1 ห้องนอน และ 1 ห้องอเนกประสงค์ เนื่องจากได้พื้นที่มากและเป็นห้องที่มีการใช้งานครบทุกฟังก์ชั่น สามารถปรับเปลี่ยนห้องอเนกกประสงค์มาเป็นห้องนอนเล็ก ห้องทำงาน หรือ ห้องนั่งเล่นได้ เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่แรกเริ่มอาจจะทำเป็นห้องทำงาน ในอนาคตหากมีครอบครัวก็ปรับเป็นห้องนอนเล็กได้



Checklist 3 : มีสภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้านที่ดี


เป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่เราควรใส่ใจ ภาพรวมควรอยู่ในสภาพดี ไม่ใช่เพียงเดินทางสะดวกเท่านั้น แต่ควรสำรวจทำเลโดยรอบว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา สามารถใช้ชีวิตประจำวันในทำเลนี้ได้หรือไม่ ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน มีความปลอดภัย ไม่เป็นที่รวมขยะ คลองน้ำเสีย เสาไฟฟ้าแรงสูง หรือเมรุเผาศพ รวมถึงควรมีนิติบุคคลดูแลโครงการ และมีการจัดตั้งนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อร่วมรับผิดชอบให้คอนโดน่าอยู่อาศัยมากขึ้น อาจจะเลือกจากเจ้าของโครงการที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในส่วนนี้ได้ครับ



เลือกคอนโดแบบมนุษย์เงินเดือน “ไว้ลงทุน”


การเลือกคอนโดแบบมนุษย์เงินเดือนไว้ลงทุนในที่นี้ ขอเน้นไปที่การลงทุนปล่อยเช่าที่ถือเป็น Passive Income และเป็นการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งของมนุษย์เงินเดือน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา และมีความเสี่ยงน้อยมาก หากจะเปรียบเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่น การเลือกคอนโดไว้ปล่อยเช่านั้นคงเหมือนกับการเลือกซื้อคอนโดไว้อาศัยอยู่เอง เพราะถ้าเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในการอยู่อาศัย ผู้เช่าก็จะได้สิ่งที่ดีสุดไปเช่นกัน แต่จะมีปัจจัยที่ให้ความสำคัญกับตัวผู้เช่า และเรื่องของราคาเพิ่มเข้ามาด้วย



Checklist 1 : มองหาทำเลที่มีอัตราการเข้าพักอาศัยสูง


ข้อนี้สำคัญมากครับ ควรเลือกทำเลที่สามารถสร้างผลตอบแทนในการปล่อยเช่า (Yield%) (อ่านบทความ : Yield คืออะไร ทำไมนักลงทุนปล่อยเช่าต้องรู้) ได้ดี หรือผลตอบแทนไม่ควรต่ำกว่า 4% ทำเลที่ปล่อยเช่าดีมากๆ อาจผลตอบแทนได้ 7-10% เลยทีเดียว โดยเฉพาะโครงการที่มีทำเลใกล้แหล่งงานชั้นนำ เช่น สีลม-สาทร อโศก-พร้อมพงษ์ หรือทำเลที่เดินทางมาแหล่งงานเหล่านี้สะดวก เช่น สะพานตากสิน-บางหว้า ที่เดินทางมาสาทร -สีลมสะดวก อ่อนนุช-พระโขนง ที่เดินทางมาสุขุมวิทสะดวก รวมถึงทำเลใกล้สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย ซึ่งทำเลเหล่านี้มักเป็นทำเลที่มีอัตราการเข้าพักอาศัยสูงเช่นกัน นอกจากนั้นถ้าเราเลือกโครงการพร้อมอยู่ หรือโครงการมือสองมักมีที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีกว่าโครงการเปิดใหม่ในทำเลเดียวกัน เพราะทำเลที่มีศักยภาพมากๆ มักมีที่การพัฒนาจำกัด เจ้าของโครงการจึงเลือกที่ดินที่ดีที่สุดมาพัฒนาก่อนด้วยครับ



Checklist 2 : โครงการที่มองเห็นอนาคตได้


ถ้าเราเลือกโครงการคอนโดพร้อมอยู่ นอกจากผู้ซื้อสามารถเห็นห้อง วัสดุ และความเรียบร้อยในการก่อสร้างแล้ว ยังสามารถดูการบริหารหลังการขายของนิติบุคคลว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการพิจารณา รวมถึงเป็นผลดีกับ เราที่สามารถสำรวจได้ว่าโครงการนี้มีอัตราการเข้าพักเป็นอย่างไรด้วยครับ ไม่ต้องนั่งเทียนคาดเดาว่าโครงการนี้จะเป็นอย่างไร


รวมถึงควรเลือกโครงการที่มีแนวโน้มราคาขายเพิ่มสูงขึ้นได้มากกว่า 10% จากตอนซื้อ (ภายใน 3-5 ปี แรก) เพราะถ้าเราซื้อโครงการที่มีราคาสูงแต่แรก นอกจากมนุษย์เงินเดือนจะซื้อไม่ไหวแล้ว เมื่อถึงเวลาขายต่อผู้ซื้อจะไม่สามารถขึ้นราคาขายได้ หรือดูแล้วทำเลนี้ไม่มีแนวโน้มในการพัฒนา ก็จะลดปัจจัยในการขึ้นราคาได้นะครับ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเพราะในระยะยาวอาจจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน



Checklist 3 : จุดเด่นถูกใจผู้เช่า


วิธีง่ายที่สุด คือ เลือกเหมือนเป็นผู้อยู่อาศัยเองก่อน เพื่อให้ได้โครงการที่มีความปลอดภัย ความสะอาด สามารถสังเกตการบริหารงาน ดำเนินงานของฝ่ายนิติบุคคล รวมถึงศึกษาให้ดีว่าโครงการที่เราซื้อนั้น ตรงกับความต้องการกลุ่มผู้เช่าของโครงการนี้หรือไม่ อย่างเช่นเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ กลุ่มคนเหล่านี้มีพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่ต่างกัน กลุ่มผู้เช่าชาวต่างชาติฝั่งยุโรป จะชอบการการว่ายน้ำ หากโครงการมีจุดเด่นสระว่ายน้ำขนาดกว้าง วิวสวยจะถูกใจผู้เช่าชาวต่างชาติฝั่งยุโรป หรือถ้าเป็นกลุ่มผู้เช่าชาวญี่ปุ่น ที่นิยมใช้อ่างอาบน้ำ โครงการน่าสนใจจึงควรมีอ่างอาบน้ำรองรับในยูนิตอยู่อาศัย เป็นต้น



สรุป


มนุษย์เงินเดือนกลุ่ม First Jobber เป็นวัยที่เหมาะกับการลงทุน สร้างความมั่นคง เพื่ออนาคต เนื่องจากยังไม่มีภาระหนี้สินมาก และการซื้อคอนโดเป็นของตัวเองถือเป็นการลงทุนได้ประโยชน์มากที่สุด สามารถอยู่เอง หรือไม่ก็ลงทุนปล่อยเช่าเพื่อหา Passive Income ได้ แต่ด้วยข้อจำกัดทางด้านการเงิน ทำให้โครงการคอนโดในเมืองที่มีราคาสูงระดับ Hi-end เกินกำลังซื้อไป รวมถึงมีตัวเลือกไม่มากนัก ถ้าหากขยับขยายพื้นที่ออกมา ไม่ไกลจากทำเลคอนโดในเมืองมาก ก็จะพบว่ามีโครงการคอนโดราคาตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนกลุ่ม First Jobber เพียงแต่ว่ามนุษย์เงินเดือนแบบเราต้องรู้จักวางแผนการเงินอย่างดี เลือกคอนโดให้ตรงกับความต้องการและอยู่ในขอบเขตที่เราสามารถผ่อนชำระได้ครับ



 

โครงการแนะนำ


Life Sukhumvit 48(ไลฟ์ สุขุมวิท 48 ) ห่างบีทีเอสพระโขนง 600 ม. 1 Bedroom ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านบาท


Aspire Sathorn-Thapra (แอสปาย สาทร-ท่าพระ ) ห่างบีทีเอสตลาดพลู 1 ก้าว 1 Bedroom ราคาเริ่มต้น 2.67 ล้านบาท

อ่านเพิ่มเติม