รถไฟฟ้าไทย ค่าเดินทางสูงมากเมื่อเทียบกับมหานครอื่น ๆ อย่าง สิงคโปร์ นิวยอร์ก ฮ่องกง ลอนดอน การลดค่าโดยสารในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off Peak) หรือการทำระบบตั๋วร่วม ให้มีราคาที่เข้าถึงได้ จะช่วยแก้ปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้อีก เช่น ปัญหาการจราจร มลพิษทางอากาศ เป็นต้น

การประกาศลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีน้ำเงิน ของ รฟม. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี สำหรับการทำให้ระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า ให้มีราคาที่เข้าถึงได้ เพราะจะช่วยแก้ปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้อีก เช่น ปัญหาการจราจร ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาการกระจุกตัวของความเจริญ เป็นต้น
รฟม.ประกาศลดค่าโดยสารช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off Peak) สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งระหว่างเตาปูนถึงนนทบุรี โดยผ่านที่สถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์ราชการนนทบุรีและกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่สายสีน้ำเงินซึ่งวิ่งระหว่างบางซื่อไปกลับท่าพระนั้น ออกตั๋วโดยสารราคาพิเศษแบบรายเดือน
การลดราคาค่าโดยสารนอกเวลาเร่งด่วนเป็นโมเดลที่หลายประเทศใช้มาหลายสิบปีแล้ว โดยมีผลอย่างมีนัยสำคัญ กระตุ้นให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน มาใช้งานในช่วงเวลาอื่น ๆ แทน
ระบบรถไฟของอังกฤษ มีการตั้งค่าโดยสารเป็นขั้นบันได เด็ก นักเรียน ผู้สูงอายุก็ราคาหนึ่ง เดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนก็ราคาหนึ่ง เดินทางนอกเวลาเร่งด่วนก็ราคาหนึ่ง ส่วนลดนั้นก็ล่อตาล่อใจ จนเป็นที่นิยมมากของผู้โดยสารเลยทีเดียว
ผลวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) พบว่าราคาของรถไฟฟ้าไทย คิดเป็นเที่ยว ๆ ละ 28.3 บาท หรือเป็นเดือน ๆ ละ 1,000-1,200 บาท นั้นถือว่าสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำของไทย ต่างจากประเทศอื่นทีแม้ค่าโดยสายดูแล้วใกล้เคียงกับไทย แต่ค่าแรงขั้นต่ำของประเทศนั้น ๆ สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ช่องว่างระหว่างค่ารถโดยสารขนส่งมวลชนกับค่าโดยสารขนส่งระบบรางนั้นก็ห่างกันอย่างมาก หรือพูดง่าย ๆ คือขนส่งมวลชนระบบรางของไทย ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนจน เพราะราคาสูงไม่สัมพันธ์กับรายได้ของคนกลุ่มนี้
การใช้ระบบตั๋วร่วม เป็นอีกอย่างที่ต่างประเทศประสบผลสำเร็จ สร้างโครงข่ายใยแมงมุมที่เชื่อมถึงกันสะดวก ด้วยราคาที่สมเหตุผล นำมาซึ่งความนิยมในการใช้ระบบขนส่งมวลชนที่สูงขึ้น ไม่เหมือนบ้านเราที่ขึ้นเรือ ขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ขึ้นรถใต้ดิน นั้นล้วนแยกกันหมด
โดยมีกรณีศึกษา อาทิ กรุงลอนดอนที่คิดค่าโดยสารจากจุดเริ่มต้นยังจุดหมายในราคาเดียวเมื่อเดินทางภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่เถลไถลอยู่ในระบบนานหลายชั่วโมง เป็นต้น
เป็นให้กำลังใจ รฟม.ในการตั้งราคาแบบขั้นบันไดนี้ ถึงแม้จะมาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา และน่าจะส่งผลกระทบในเชิงแนวคิดและการตั้งราคาสำหรับเอกชนและรัฐวิสาหกิจรายอื่นที่อยู่ในระบบขนส่งเช่นกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าต่อไปคนไทย จะมีโอกาสได้ใช้บริการขนส่งมวลชนมากขึ้นเพราะทั้งราคาสมเหตุผล รวดเร็ว และช่วยลดปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมาได้อีกมาก
กันต์ เอี่ยมอินทรา
กรุงเทพธุรกิจ
ติดตามอัพเดทข่าวสารในวงการอสังหาฯ ทั้งหมดได้ที่
https://www.bkkcitismart.com/ข่าว
#news #BC #BangkokCitiSmart

การประกาศลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีน้ำเงิน ของ รฟม. ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี สำหรับการทำให้ระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า ให้มีราคาที่เข้าถึงได้ เพราะจะช่วยแก้ปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้อีก เช่น ปัญหาการจราจร ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาการกระจุกตัวของความเจริญ เป็นต้น
รฟม.ประกาศลดค่าโดยสารช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off Peak) สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งระหว่างเตาปูนถึงนนทบุรี โดยผ่านที่สถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์ราชการนนทบุรีและกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่สายสีน้ำเงินซึ่งวิ่งระหว่างบางซื่อไปกลับท่าพระนั้น ออกตั๋วโดยสารราคาพิเศษแบบรายเดือน
การลดราคาค่าโดยสารนอกเวลาเร่งด่วนเป็นโมเดลที่หลายประเทศใช้มาหลายสิบปีแล้ว โดยมีผลอย่างมีนัยสำคัญ กระตุ้นให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน มาใช้งานในช่วงเวลาอื่น ๆ แทน
ระบบรถไฟของอังกฤษ มีการตั้งค่าโดยสารเป็นขั้นบันได เด็ก นักเรียน ผู้สูงอายุก็ราคาหนึ่ง เดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนก็ราคาหนึ่ง เดินทางนอกเวลาเร่งด่วนก็ราคาหนึ่ง ส่วนลดนั้นก็ล่อตาล่อใจ จนเป็นที่นิยมมากของผู้โดยสารเลยทีเดียว
ผลวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) พบว่าราคาของรถไฟฟ้าไทย คิดเป็นเที่ยว ๆ ละ 28.3 บาท หรือเป็นเดือน ๆ ละ 1,000-1,200 บาท นั้นถือว่าสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำของไทย ต่างจากประเทศอื่นทีแม้ค่าโดยสายดูแล้วใกล้เคียงกับไทย แต่ค่าแรงขั้นต่ำของประเทศนั้น ๆ สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ช่องว่างระหว่างค่ารถโดยสารขนส่งมวลชนกับค่าโดยสารขนส่งระบบรางนั้นก็ห่างกันอย่างมาก หรือพูดง่าย ๆ คือขนส่งมวลชนระบบรางของไทย ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนจน เพราะราคาสูงไม่สัมพันธ์กับรายได้ของคนกลุ่มนี้
การใช้ระบบตั๋วร่วม เป็นอีกอย่างที่ต่างประเทศประสบผลสำเร็จ สร้างโครงข่ายใยแมงมุมที่เชื่อมถึงกันสะดวก ด้วยราคาที่สมเหตุผล นำมาซึ่งความนิยมในการใช้ระบบขนส่งมวลชนที่สูงขึ้น ไม่เหมือนบ้านเราที่ขึ้นเรือ ขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ขึ้นรถใต้ดิน นั้นล้วนแยกกันหมด
โดยมีกรณีศึกษา อาทิ กรุงลอนดอนที่คิดค่าโดยสารจากจุดเริ่มต้นยังจุดหมายในราคาเดียวเมื่อเดินทางภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่เถลไถลอยู่ในระบบนานหลายชั่วโมง เป็นต้น
เป็นให้กำลังใจ รฟม.ในการตั้งราคาแบบขั้นบันไดนี้ ถึงแม้จะมาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา และน่าจะส่งผลกระทบในเชิงแนวคิดและการตั้งราคาสำหรับเอกชนและรัฐวิสาหกิจรายอื่นที่อยู่ในระบบขนส่งเช่นกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าต่อไปคนไทย จะมีโอกาสได้ใช้บริการขนส่งมวลชนมากขึ้นเพราะทั้งราคาสมเหตุผล รวดเร็ว และช่วยลดปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมาได้อีกมาก
กันต์ เอี่ยมอินทรา
กรุงเทพธุรกิจ
ติดตามอัพเดทข่าวสารในวงการอสังหาฯ ทั้งหมดได้ที่
https://www.bkkcitismart.com/ข่าว
#news #BC #BangkokCitiSmart