
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จับตาตลาดจีนโตแรง เร่งดันส่งออก หันเฟ้นสินค้าไฮเทคซับพลายตลาด วางไทยฐานซับพลายเช่นโลกทั้งกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรม ด้านเอกชนกลุ่มอิเล็กทรอกนิกส์ ชี้ทุนจีนเร่งเข้าไทย หลบพิษสงครามการค้า ทำเม็ดเงิน-เทคโนโลยี-ส่งออก ไทยได้อานิสงค์
เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยอย่าง “ส่งออก” ที่มีสัดส่วนต่อ GDP สูงถึง 70% กำลังอยู่ในอาการโคมา แต่ท่ามกลางความกังวลต่างพบว่า ตลาดจีน มีอัตราส่งออกขยายตัวที่สูงและต่อเนื่องมาหลายเดือน อาจเป็นความหวังปลุกเครื่องยนต์ส่งออกให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตลาดจีนมีแนวโน้มการส่งออกที่ดีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะเป็นตลาดหนึ่งที่มีอัตราขยายตัวเป็นบวก แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะขยายตัวในอัตราเท่าใด
สาเหตุที่การส่งออกไปจีนมีแนวโน้มดีขึ้น แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ 1.ความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นหลังการหยุดล็อกดาวน์เมืองก่อนหน้านี้ ทำให้สินค้ากลุ่มอาหาร สินค้าเกษตร ผักสดและผลไม้ และของใช้ประจำวันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2.ซัพพลายเชนระหว่างประเทศสามารถขับเคลื่อนได้แล้ว ทำให้ความต้องการวัตถุดิบและอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เริ่มกลับมา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงชิ้นส่วนยานยนต์
“กำลังดูว่ากลุ่มวัสดุและอุปกรณ์กลุ่มใหม่ที่จีนนำเข้าหลายรายการนั้นสามารถพัฒนาเป็นกลุ่มสินค้าส่งออกได้หรือไม่ เพราะสาเหตุที่มีการนำเข้าจากไทยมากขึ้น เพราะซับพลายจากบางประเทศยังไม่สามารถผลิตและส่งออกได้ซึ่งผิดกับไทย จึงมีคำสั่งซื้อมาไทยก่อน”
ชี้จีนยังไม่ดึงส่งออกรวมได้
อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มการส่งออกไปจีนจะดีขึ้น แต่ไม่สามารถทดแทนการส่งออกในภาพรวมได้ เพราะจีนมีสัดส่วนต่อการส่งออกทั้งหมดเฉลี่ยที่ 11% ดังนั้น จึงพิจารณาตลาดอื่นในกลุ่มเดียวกัน ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งมีแนวโน้มสถานการณ์โควิดคลี่คลายแล้ว มีดีมานด์จากการบริโภคเพิ่ม และการผลิตสินค้าต่าง ๆ เริ่มกลับมา โรงงานเริ่มเปิดแล้ว จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะเป็นส่วนหนึ่งของซับพลายเชนของกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้ด้วย เบื้องต้น จะเน้นกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์ แต่คงยืนพื้นในส่วนสินค้าเกษตรและอาหารต่อไปด้วย

นายสุภาพ สุวรรณพิมลกุล เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปีนี้คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีโควิด-19 ก็มั่นใจว่าจะเติบโตได้มากกว่านี้
ทุนจีนช่วยดันส่งออกไทย
อย่างไรก็ตาม จากกระแสสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และการย้ายฐานการผลิตจากผลกระทบโควิด-19 คาดว่าจะส่งผลบวกกับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยทั้งในระยะสั้นและยาว โดยเฉพาะในเรื่องของการลงทุน ได้มีผู้ประกอบการจีนขยายฐานการผลิตเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่จะเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยก่อน ทั้งในรูปแบบร่วมลงทุนกับคนไทย และเข้ามาลงทุนเอง ซึ่งจะมีผู้ผลิตชิ้นส่วนซัพพลายเชนของตัวเองย้ายเข้ามาตั้งโรงงานผลิตในไทย ทั้งในอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป
นอกจากนี้ ยังส่งผลบวกต่อการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ซึ่งการที่จีนขยายฐานการผลิตเข้ามาในไทย ก็จะทำให้ยอดส่งออกของไทยเติบโตตามไปด้วย
การที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากจีนที่ตามบริษัทแม่เข้ามาลงทุนในไทย ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยอยู่พอสมควร ดังนั้น รัฐบาลจึงควรออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้แต้มต่อกับเอสเอ็มอีไทยให้มีศักยภาพ และเทคโนโลยีแข่งขันกับนักลงทุนต่างชาติ เช่น การให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างเต็มที่ในทุกอุตสาหกรรม
ผวาเอสเอ็มอีแข่งพ่ายทุนจีน
เนื่องจากในปัจจุบันคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดเฉพาะอุตสาหกรรมในกลุ่ม new s-curve ส่วนอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เป้าหมายก็จะได้รับการยกเว้นภาษีน้อยกว่า ซึ่งหากรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเอสเอ็มอีในด้านนี้ ก็จะช่วยให้มีกำลังในการยกระดับจากธุรกิจขนาดเล็กไปสู่ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดใหญ่ได้ในอนาคต
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ