นวัตกรรมในคอนโด ประหยัดแรง ประหยัดพลังงาน
.jpg)
ก่อนจะซื้อคอนโดมิเนียม ควรสำรวจนวัตกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ว่าภายในคอนโดของเรามีรับรองหรือไม่ หากมีอย่างใดอย่างหนึ่งก็หมายความว่าคอนโดฯ นั้น ใส่ใจถึงความสะดวกสบายของลูกบ้านและคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน จะมีนวัตกรรมสำหรับคอนโดอะไรบ้าง ไปดูกันครับ
1. RFID (Radio frequency identification)

เทคโนโลยีที่อาศัยคลื่นวิทยุ ช่วยระบุข้อมูลสิ่งต่างๆ ที่สามารถขับรถเข้า-ออกโครงการโดยไม่ต้องแตะบัตร คล้ายกับวิธีการขึ้นทางด่วนในช่อง Easy Pass หรือแม้กระทั่งตอนเข้าห้องเองก็เช่นกันครับ
ข้อดี
2. Auto Parking

หลายๆ โครงการได้มีการนำ Auto Parking มาใช้บริการ เนื่องจากพื้นที่โครงการมีจำกัด ตรงกันข้ามกับจำนวนยูนิตที่เยอะ ที่จอดรถแบบ Auto Parking จึงช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านโดยไม่ต้องวนรถหาที่จอดรถ สามารถจอดได้รวดเร็วและลดมลพิษจากควันรถที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมภายในโครงการครับ
3. Solar Energy

แผงโซลาเซลล์ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ครับ ข้อดีคือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี ในอนาคต Solar Energy อาจพัฒนาไปถึงขั้นการกักเก็บเป็นพลังงานสำรองเพื่อทดแทนในวันที่ไฟฟ้าขัดข้องก็เป็นไปได้
ข้อดี
4. Application

แอปพลิเคชั่นของลูกบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกสบายสำหรับการติดต่อเรื่องส่วนกลางกับนิติบุคคล ทั้งในเรื่องการแจ้งบิลค่าน้ำ-ค่าไฟ, แจ้งเลขพัสดุ, แจ้งซ่อม จองห้องดูภาพยนตร์ เป็นต้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่หรือสแกนจ่ายบิลได้อย่างง่ายดายครับ
ข้อดี
5. Smart Home

เทคโนโลยีนี้ นำมาใช้กับบ้านหรือคอนโดสักพักแล้ว วิธีการคือนำเทคโนโลยีมาเชื่อมต่อกับเซนเซอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ, หลอดไฟ, เครื่องเสียง, ทีวี ไปจนถึงประตูและหน้าต่างครับ โดยระบบ Smart Home จะทำงานร่วมกับอินเทอร์เน็ต สามารถเชื่อมต่อ ควบคุม และสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้จากทุกที่แม้ตัวเราจะไม่อยู่ห้องครับ
ข้อดี
6. Front Door Break-in Alert

Front Door Break-in Alert เปรียบเสมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยแจ้งเตือนว่าใครเปิด-ปิดประตูห้องเรา หากมีคนเปิดประตูเข้า-ออก สัญญาณจะดัง และจะส่งภาพเข้าไปยังสมาร์ทโฟนทันที
ข้อดี
7. ERV Air-to-Air Heat Exchanger

เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบอากาศ (Air-to-Air Heat Exchanger) แบบ Plate ที่ใช้แลกเปลี่ยนความร้อนและความชื้น ระหว่างอากาศภายในและอากาศภายนอก ช่วยลดพลังงานและทำให้อากาศภายในห้องหมุนเวียน จากนั้นเครื่องปรับอากาศจะทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานไปในตัวครับ
ข้อดี
8. Air Corridor Window

หน้าต่างที่ติดอยู่บริเวณโถงทางเดินเข้าห้อง ช่วยลดทอนปัญหาความร้อนและความอับชื้นของคอนโดมิเนียมแต่ละชั้น ทำให้เกิดอากาศหมุนเวียน และลดความร้อนภายในคอนโดครับ
ข้อดี
ในอนาคตเราอาจได้เห็นนวัตกรรมสำหรับคอนโดเกิดขึ้นอีกมากมาย สามารถติดตามบทความจาก Bangkok Citismart ได้ที่ www.bkkcitismart.com/บทความ
.jpg)
ก่อนจะซื้อคอนโดมิเนียม ควรสำรวจนวัตกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ว่าภายในคอนโดของเรามีรับรองหรือไม่ หากมีอย่างใดอย่างหนึ่งก็หมายความว่าคอนโดฯ นั้น ใส่ใจถึงความสะดวกสบายของลูกบ้านและคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน จะมีนวัตกรรมสำหรับคอนโดอะไรบ้าง ไปดูกันครับ
1. RFID (Radio frequency identification)

เทคโนโลยีที่อาศัยคลื่นวิทยุ ช่วยระบุข้อมูลสิ่งต่างๆ ที่สามารถขับรถเข้า-ออกโครงการโดยไม่ต้องแตะบัตร คล้ายกับวิธีการขึ้นทางด่วนในช่อง Easy Pass หรือแม้กระทั่งตอนเข้าห้องเองก็เช่นกันครับ
ข้อดี
- สะดวกสบาย
- ไม่ต้องจำรหัสผ่าน
- ไม่ต้องใช้คีย์การ์ดสแกนให้ยุ่งยาก
2. Auto Parking

หลายๆ โครงการได้มีการนำ Auto Parking มาใช้บริการ เนื่องจากพื้นที่โครงการมีจำกัด ตรงกันข้ามกับจำนวนยูนิตที่เยอะ ที่จอดรถแบบ Auto Parking จึงช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านโดยไม่ต้องวนรถหาที่จอดรถ สามารถจอดได้รวดเร็วและลดมลพิษจากควันรถที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมภายในโครงการครับ
- ข้อดี
- ปลอดภัย
- ไม่ต้องหาที่จอด
- ลดเชื้อเพลิงจากควันรถ
3. Solar Energy

แผงโซลาเซลล์ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ครับ ข้อดีคือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี ในอนาคต Solar Energy อาจพัฒนาไปถึงขั้นการกักเก็บเป็นพลังงานสำรองเพื่อทดแทนในวันที่ไฟฟ้าขัดข้องก็เป็นไปได้
ข้อดี
- ประหยัดค่าไฟ
- ลดพลังงาน
- กักเก็บพลังงานสำรอง
4. Application

แอปพลิเคชั่นของลูกบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกสบายสำหรับการติดต่อเรื่องส่วนกลางกับนิติบุคคล ทั้งในเรื่องการแจ้งบิลค่าน้ำ-ค่าไฟ, แจ้งเลขพัสดุ, แจ้งซ่อม จองห้องดูภาพยนตร์ เป็นต้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่หรือสแกนจ่ายบิลได้อย่างง่ายดายครับ
ข้อดี
- แจ้งบิลค่าน้ำ-ไฟ
- แจ้งเลขพัสดุ
- แจ้งซ่อม
- ติดต่อนิติฯ
- แจ้งข่าว PR
5. Smart Home

เทคโนโลยีนี้ นำมาใช้กับบ้านหรือคอนโดสักพักแล้ว วิธีการคือนำเทคโนโลยีมาเชื่อมต่อกับเซนเซอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ, หลอดไฟ, เครื่องเสียง, ทีวี ไปจนถึงประตูและหน้าต่างครับ โดยระบบ Smart Home จะทำงานร่วมกับอินเทอร์เน็ต สามารถเชื่อมต่อ ควบคุม และสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้จากทุกที่แม้ตัวเราจะไม่อยู่ห้องครับ
ข้อดี
- สั่งงานผ่านมือถือ, เสียง, การเคลื่อนไหว
- ควบคุมอุณหภูมิแอร์ได้ก่อนที่จะถึงห้อง
- สั่งงานระบบไฟฟ้าได้ทันทีเมื่อมีญาติมาที่ห้อง
6. Front Door Break-in Alert

Front Door Break-in Alert เปรียบเสมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยแจ้งเตือนว่าใครเปิด-ปิดประตูห้องเรา หากมีคนเปิดประตูเข้า-ออก สัญญาณจะดัง และจะส่งภาพเข้าไปยังสมาร์ทโฟนทันที
ข้อดี
- ปลอดภัย
7. ERV Air-to-Air Heat Exchanger

เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบอากาศ (Air-to-Air Heat Exchanger) แบบ Plate ที่ใช้แลกเปลี่ยนความร้อนและความชื้น ระหว่างอากาศภายในและอากาศภายนอก ช่วยลดพลังงานและทำให้อากาศภายในห้องหมุนเวียน จากนั้นเครื่องปรับอากาศจะทำงานน้อยลง ช่วยให้ประหยัดพลังงานไปในตัวครับ
ข้อดี
- อากาศถ่ายเทสะดวก
- ทำงานควบคู่กับระบบเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอปฯ
- ประหยัดพลังงาน
8. Air Corridor Window

หน้าต่างที่ติดอยู่บริเวณโถงทางเดินเข้าห้อง ช่วยลดทอนปัญหาความร้อนและความอับชื้นของคอนโดมิเนียมแต่ละชั้น ทำให้เกิดอากาศหมุนเวียน และลดความร้อนภายในคอนโดครับ
ข้อดี
- อากาศถ่ายเทสะดวก
- ลดความร้อน
- ลดความอับชื้น
ในอนาคตเราอาจได้เห็นนวัตกรรมสำหรับคอนโดเกิดขึ้นอีกมากมาย สามารถติดตามบทความจาก Bangkok Citismart ได้ที่ www.bkkcitismart.com/บทความ