Ultimate Luxury LocationRatchadamri Ploenchit Chidlom
3 ทำเลคอนโดหรู ราชดำริ เพลินจิต ชิดลม

ราชดำริ เพลินจิต ชิดลม เป็นย่านใจกลางเมืองที่มาพร้อมคาเรคเตอร์ของย่านที่ทุกคนรู้จักกันดี คือ Ultimate Luxury Location ความหรูหราเหล่านี้เกิดขึ้นโดยการสั่งสมการพัฒนามานานจากการเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลากหลายประเทศ, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์ระดับโลก, เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานเกรดเอ ประกอบไปด้วยบริษัทชั้นนำทั้งไทยและเทศ, ใกล้กับสวนสาธารณะกลางเมืองอย่างสวนลุมพินี, เป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ได้รับการบริหารงานจากเครือโรงแรมต่างประเทศ รวมถึงเป็นที่ตั้งที่อยู่อาศัยทั้ง Service Apartment และ คอนโดมิเนี่ยมระดับ 250,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปทั้งนั้น ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ที่ดินในทำเลราชดำริ เพลินจิต ชิดลมเป็นย่านที่ได้ชื่อว่าราคาแพงที่สุดในไทยอีกด้วย ซึ่งล่าสุดมีราคาประเมินรอบปี 2559-2562 จะอยู่ที่ 1 ล้านบาท (ซึ่งราคาซื้อขายจริงส่วนใหญ่จะสูงกว่านี้)

เอาหละครับนี่ก็คงเป็นภาพรวมของย่านที่ทำให้เรารู้จักทำเลสุดหรูนี้กันพอหอมปากหอมคอ เราลงไปดูรายละเอียดแต่ละโซนกันว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง!

ราชดำริ-ราชประสงค์
RAJDAMRI-RATCHAPRASONG

ถนนราชดำริบริเวณต้นถนนจะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับแยกสีลมตรงบริเวณลานหน้าสวนลุมพินีและวิ่งเข้าสู่แยกราชประสงค์ ตลอดทั้งเส้นถนนนี้มีส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ เช่น The St. Regis Bangkok, Anantara Siam Bangkok Hotel, Hansar Hotel Bangkok, Anantara Baan Rajprasong, Grand Hyatt Erawan Bangkok, Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel และล่าสุดกับ Waldorf Astoria Bangkok  โรงแรม 5 ดาวสุดหรูของ Waldorf Astoria Hotels & Resorts ในเครือ Hilton โดยนับเป็นโรงแรม Waldorf Astoria แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และถ้าเลยไปฝั่งราชประสงค์ ที่เป็น Ratchaprasong District ก็มีครบทุกองค์ประกอบครับ มีทั้งห้องพักโรงแรมระดับ 5 ดาว กว่า 4,000 ห้อง, พื้นที่ช้อปปิ้งรวม 884,200 ตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็น Central World, The Market, Big C และ The Platinum มีร้านค้าภายในย่าน 5,500 ร้านค้า ซึ่งเป็นที่รู้จักนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

มีอาคารสำนักงาน 169,000 ตารางเมตร ที่โดดเด่นคือ Garsorn Tower อาคารสำนักงานเกรดเอที่ปัจจุบันมีราคาปล่อยเช่าสูงกว่า 1,200 บาท/ตารางเมตร/เดือน รวมถึงสวนปทุมวนานุรักษ์ เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางมหานครกรุงเทพฯ

รวมถึงเป็นถนนซึ่งเป็นที่ตั้งคอนโด Freehold และ Leasehold ทั้งโครงการเก่าใหม่อย่างเช่น 185 Ratchadamri, Magnolias Ratchadamri Boulevard มีราคาโดยเฉลี่ย 300,000 - 400,000 บาทต่อตารางเมตร โดยโครงการใหม่สุด The Private Residence Rajdamri จาก Grand Unity เป็นคอนโดโลวไรซ์อยู่ในซอยสารสิน 2 มีขนาดห้องเริ่มต้นอยู่ที่ 70 ตารางเมตร โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ราคาเริ่มต้น 198,000 บาทต่อตารางเมตร หรือประมาณ 13 ล้านบาท และหากใครผ่านไปผ่านมาบริเวณถนนราชดำริ ก็จะเห็นโครงการ Areeya Residence คอนโดที่ยังไม่เปิดตัวเท่าไหร่ ก็เป็นอีกโครงการที่ต้องติดตามกันต่อครับ

เพลินจิต-วิทยุ
PLOENCHIT-WIRELESS

ถนนเส้นนี้วิ่งเป็นเส้นทางวันเวย์เช่นเดียวกันกับถนนชิดลม-หลังสวนครับ เป็นการเดินรถแบบวันเวย์มาจากฝั่งสาทร เข้าถนนวิทยุ และไปสู่ถนนเพลินจิต ออกสู่ถนนใหญ่เพชรบุรี ทำเลเพลินจิตนั้นมีความใกล้กับชิดลม แทบจะเป็นเป็นส่วนเดียวกัน ต่างกันที่บริเวณแยกเพลินจิตนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานเกรดเอ มีผู้เช่าเป็นบริษัทต่างชาติชั้นนำ และเป็นที่ตั้งของสถานทูตขนาดใหญ่ๆ เช่น สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ สถานทูตอเมริกา เป็นต้น

เมื่อมองในส่วนของคอนโดก็จะมีทั้งคอนโดไฮไรซ์และโลวไรซ์เลย โดยคอนโดโลวไรซ์จะตั้งอยู่ในซอยเล็ก เช่น ซอยร่วมฤดี และซอยนายเลิศ เช่น  Maestro 02 Ruamrudee, Socio Ruamrudee, The Nest Ploenchit, Noble Ambience Ruamrudee, The Crest Ruamrudee, The Tempo Ruamrudee และ Craft Ploenchit

ส่วนคอนโดไฮไรซ์ ที่อยู่ติดถนนเพลินจิตและถนนวิทยุนั้น ไม่ว่าจะเป็น 98 Wireless หรือ Noble Ploenchit เหล่านี้เป็นโครงการพร้อมอยู่ ล่าสุดเป็นก็จะเป็น Life One Wireless ที่พร้อมเข้าอยู่ปลายปีนี้ มีราคาดีทีเดียวครับ ไม่เกิน 200,000 บาทต่อตารางเมตร ห่างจากบีทีเอสเพลินจิตเพียง 600 เมตร

สามารถอ่านรีวิวโครงการเพิ่มเติมได้ที่ 
www.bkkcitismart.com/กรุงเทพมหานคร-คอนโด/ไลฟ์-วัน-ไวร์เลส/รีวิว

รวมถึงเป็นที่ตั้งของ BDMS WELLNESS CENTER ซึ่งอยู่ตรงข้าม Life One Wireless เป็นโครงการที่จะช่วยตอบสนองวิถีชีวิตของสังคมยุคใหม่ โดยเป็นการให้บริการดูแลสุขภาพที่มุ่งเน้นการดูแลป้องกัน และเสริมสร้างสภาวะสุขภาพให้ผู้มารับบริการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

ทั้งนี้ในโซนเพลินจิต-วิทยุมีการพัฒนาของโครงการโรมแรม Rosewood Bangkok  ของบริษัท เรนด์ เพลินจิต โฮเต็ล จำกัด เป็นโรงแรมระดับ 6 ดาว ที่ตั้งใจดีไซน์ตัวอาคารให้เหมือน "การไหว้" (พนมมือ) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนไทยในการทักทายและต้อนรับ เป็นโรงแรมที่มีความสูง 33 ชั้น มีห้องพัก 159 ห้อง มีร้านอาหารและบาร์ ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการแล้วครับ

ชิดลม-หลังสวน

CHIDLOM - LANGSUAN

ในส่วนของถนนชิดลมนั้น เป็นเพียงถนนเส้นสั้นๆ แต่มีความหรูไม่เบาเลยทีเดียว ถนนชิดลมจะเป็นทางวิ่งแบบวันเวย์มาจากถนนเพชรบุรี และสามารถวิ่งยาวไปถึงสวนลุมพินีได้โดยผ่านซอยหลังสวน ตลอดทั้งถนนเส้นนี้จะเป็นที่ตั้งของคอนโด และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับ Luxury เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ช่วงกลางคืนมีความสงบมากกว่าโซนราชดำริ-ราชประสงค์

คอนโดที่น่าสนใจในโซนนี้ขอเสนอเป็นคอนโด Freehold ที่สร้างเสร็จมานานกว่า 10 ปี แต่ยังดูดีทั้งตัวอาคารและราคาเลย นั่นก็คือ The Park Chidlom ถือเป็นคอนโดระดับ Hi-end สุดๆในสมัยนั้นเป็นห้องขนาดใหญ่ที่อยู่อาศัยกันเป็นครอบครัว มีเพียง 4 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น รวมถึง The Address Chidlom ที่อยู่ข้างๆกันก็เป็นคอนโดระดับตำนานของ AP ที่ยังมีคนถามหากันอยู่ในปัจจุบัน

และ อีกโครงการที่น่าสนใจ คือ Muniq Luagsuan เป็นคอนโดใกล้สวนลุมพินีในระยะเดิน รวมไปถึงรูปแบบการขายแบบ Freehold ที่หาได้ยากในโซนนี้ ด้วยราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 300,000 บาทต่อตารางเมตร ก็เป็นอีกโครงการที่น่าใจสำหรับคนที่ต้องการคอนโดระดับ Super Luxury กลางเมือง

ในส่วนของโครงการใหม่ล่าสุดของโซนนี้อีกโครงการก็จะเป็น Scope Langsuan เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง SCOPE x SC ASSET คอนโดหรูระดับ Super Luxury มูลค่ากว่า 7,800 ลบ. บนพื้นที่ประมาณ 2.02 ไร่ ความสูง 34 ชั้น ห้องชุดพักอาศัยสุดหรูเพียง 158 ห้อง เป็นการออกแบบจาก “โทมัส ยูล-ฮันเซน” ดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์ก ผู้ออกแบบภายในโครงการคอนโดมิเนียมที่แพงที่สุดของนิวยอร์ค โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการช่วงเดือน มิ.ย. 2562 นี้  มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 โดยราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 38 ล้านบาท ไปจนถึง 250 ล้านบาท

ทั้งนี้บริเวณปลายถนนหลังสวนเป็นที่ตั้งของโครงการขนาดใหญ่อย่างหลังสวนวิลเลจ (Langsuan Village) ที่เป็นโครงการมิกซ์ยูส์ 6 โครงการย่อย รวม 11 อาคาร ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 4 อาคาร (leased hold 30 ปี), Service Apartment 3 อาคาร, โรงแรม 1 อาคาร, หอศิลป์-พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 1 อาคาร, Walking Street 1 อาคาร และศูนย์สุขภาพ 1 อาคาร บนเนื้อที่ดินกว่า 56 ไร่ บริเวณซอยหลังสวนและซอยต้นสน หลังสวนสาธารณะลุมพินี

ปัจจุบันหากใครผ่านไปผ่านมาก็จะเห็นว่ายังมีบางอาคารก่อสร้างอยู่ และบางอาคารอย่างเช่น Sinthorn Langsuan (สินธร หลังสวน) และ Sinthorn Tonson (สินธร ต้นสน) ที่เป็นส่วนของคอนโดขายแบบให้เช่า (Leasehold) ระยะยาว 30 ปี และสามารถต่ออายุสัญญาเช่าได้อีก 30 ปีรวมทั้งหมด 60 ปี โดย บริษัท สยามสินธร จำกัด ก็ก่อสร้างเสร็จแล้วครับ

สรุป

ทั้งสามโซนนี้เป็นที่สุดของความ Ultimate Luxury สั่งสมจากการพัฒนาพื้นที่ต่างๆภายในย่าน ทั้งนี้โครงการที่เกิดขึ้นมาใหม่ก็พัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทเดิม เป็นการเสริมสร้างความพรีเมี่ยมไม่รู้จบ ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์และการอยู่อาศัยในย่านเหล่านี้เป็นภาพจำของ Luxury Living